เรือรบยิงสลุต 19 นัด อำลาชีวิตราชการผู้บัญชาการทหารเรือ

           (27 สิงหาคม 2563) เวลา 14.00 น. พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้เดินทางไปยังเรือหลวงจักรีนฤเบศร ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและให้โอวาทกำลังพลในสังกัดกองเรือยุทธการ ในวาระเยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ภาคตะวันออก ในโอกาสเกษียณอายุราชการ โดยมีคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนกำลังพลของกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ พร้อมจัดเรือหลวงเจ้าพระยา ยิงสลุต 19 นัด เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการทหารเรือ โดยข้าราชการกองเรือยุทธการ ได้ร่วมกันร้องเพลง “ใจสู้หรือเปล่า” พร้อมมอบดอกกุหลาบให้กับผู้บัญชาการทหารเรือเนื่องในวันอำลาหน่วยอีกด้วย
              ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบโอวาทแก่กำลังพล โดยกล่าวชื่นชมกองเรือยุทธการ ความว่า “กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยที่ได้มีโอกาสมาทำงานกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตการรับราชการ ทั้งผู้บังคับหน่วยรบ ฝ่ายอำนวยการ ตั้งแต่เรือตรีจนกระทั่งเป็นนายพลมาโดยลำดับ ได้เห็นการเติบโตของหน่วยนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันสามารถทำการรบได้ทั้ง 4 มิติ ในฐานะที่พวกเราเป็นนักรบชาวเรือ ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ทำงานในที่ที่ประชาชนทั่วไปไม่ทราบว่าทำอะไร บางครั้งอาจเข้าใจผิดว่าเราไม่ทำอะไรเลย ไม่ต้องน้อยใจ สุดท้ายก็ปรากฏอยู่หลายประการ เช่นเหตุการณ์ที่ขุนน้ำนางนอน เหตุการณ์ ไวรัสโคโรน่า 2019 ที่กำลังพลทุกนายต้องรับภาระอันยิ่งใหญ่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ที่ใช้เวลาถึง 4 ปีเต็มในการแก้ปัญหา ล้วนแล้วแต่เกิดจากกำลังพลหลักของกองเรือยุทธการ ขอจงภาคภูมิใจในผลงานยาวนาน และต่อ ๆ ไปก็เป็นเช่นนี้ เชื่อว่าพวกเรารุ่นน้องรุ่นหลังจะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้สืบต่อไป
               ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ขอขอบคุณพวกเราทุกคน ที่ให้ความร่วมมือช่วยกันคนละไม้คนละมือในการสร้างความเติบโตให้กับกองเรือยุทธการ ในการสร้างผลงานให้กองเรือยุทธการเป็นที่ชื่นชมชื่นชอบของประชาชน สมกับที่ผมได้มุ่งหวังก็คือ “กองทัพเรือ ต้องเป็นกองทัพทหารของประชาชน หายใจเชื่อมใจ ประสานใจ และมีชะตาชีวิตร่วมกันกับประชาชน สู้เพื่อรับใช้ประชาชน ที่ใดมีศัตรู ที่ใดมีภัย ที่นั่นย่อมมีทหารของกองทัพเรือ ให้สมกับคุณค่าที่ส่งมอบให้กับสังคม เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ”
               และอำลาครั้งนี้ก็ไม่อาลัย เพราะเชื่อได้ว่านักรบแห่งราชนาวี ไม่ว่าใครเป็นผู้บัญชาการทหารเรือก็ทำเช่นนี้สืบต่อไปรุ่นต่อรุ่นเป็นทอด ๆ ไป เหมือนคลื่นทะเลคลื่นลูกแล้วลูกเล่า ซัดไม่ขาดสายตราบใด ทะเลยังคงความเค็ม เลือดของชาวเรือก็เป็นเช่นนั้น เกียรติยศไม่ได้มีแต่กำเนิด แต่เกิดจากการกระทำพวกเราที่ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเช่นนั้นทุกผู้ทุกคน ขอจงรักษาความดีความงามนี้ไว้ตราบนานเท่านาน และระลึกถึงกันอยู่เสมอ ดุจสายใยสายน้ำไม่เคยขาด

 

Subscribe
Advertisement