บิ๊กโจ๊ก ลุยตรวจโครงการ Jomtien Pattaya Smart Safety Zone 4.0 โรงพักพัทยา ติดอันดับ 1 ใน 30 ของประเทศ

         ตามที่รัฐบาลได้กำหนดวิสัยทัศน์ประเทศว่า ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดทำ “โครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 (SMART SAFETY ZONE 4.0)” ขึ้น ในระยะที่ 2

         ต่อมาศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบควบคุม กำกับดูแล และปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในงานด้านพัฒนา และดำเนินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกในการปราบปราม

           ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ก.ค.65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาติดตามความก้าวหน้า และตรวจประเมินโครงการ Jomtien Pattaya Smart Safety Zone 4.0 ของ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ติดอันดับ 1 ใน 30 ของสถานีตำรวจทั้งประเทศ โดยมี พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา นายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง

         พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดเผยว่า สำหรับ สภ.เมืองพัทยา เป็น 1 ในโรงพักแรกๆ ที่ดำเนินตามโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 (SMART SAFETY ZONE 4.0) โดยจากการประเมินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภ.เมืองพัทยา ติด 1 ใน 30 จากสถานีตำรวจทุกโรงพักในประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับภาคการท่องเที่ยว ทั้งการดูแลความปลอดภัย ประชาชนชาวบ้าน และดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะหลั่งไหลเข้ามาในภายภาคหน้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ททท. องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ภาครัฐและภาคเอกชน จะต้องร่วมมือกัน

         โดยนวัตกรรมของโครงการสมาร์ทเชฟตี้โซน 4.0 (SMART SAFETY ZONE 4.0) เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการป้องกันเหตุ ซึ่งการทำงานที่ตรงใจประชาชนมากที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้น ซึ่งทางตำรวจมีหน้าที่ในด้านการป้องกันและปราบปราม แต่ถ้าหากมีเหตุเกิดขึ้น ทางตำรวจก็ต้อง จับคนร้ายให้ได้ ทั้งนี้ หัวใจหลักในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือการลดอาชญากรรมให้ได้มากที่สุด เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวนั่นเอง