ตำรวจบางละมุงออกหมายจับ 2 ฝรั่งโปแลนด์ พร้อมไทม์ไลน์ก่อเหตุ เชื่อมีการวางแผนมาล่วงหน้า สร้างแชทปลอมขอดูงานศิลปะ ก่อนลงมือก่อเหตุ

            จากกรณีเพจของทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือทนายตั้ม ได้โพสต์ภาพหญิงสาวชาวกัมพูชา มีอาชีพเป็นนักวาดภาพอิสระ ถูกคนร้ายเป็นฝรั่งชาวโปรแลนด์ ทำร้ายร่างกาย ใช้มีดกรีดหน้า-ค้อนทุบตี จนเลือดอาบร่างกาย มิหนำซ้ำยังใช้น้ำกรดสาดใบหน้า ตามร่างกาย และอวัยวะเพศ จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเหตุ ป่ารกร้างใกล้กับร้านอาหารแบมบูบีช ย่านนาเกลือซอย 16 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นั้น
          คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2565 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวน ได้ติดตามไปสอบปากคำ น.ส.เซเร (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย ขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา จากการสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่าเป็นศิลปินวาดภาพอิสระ และทำงานให้กับมูลนิธิการกุศลแห่งหนึ่ง ในประเทศกัมพูชา (NGO) และมาอาศัยในเมืองพัทยาได้ประมาณ 1 ปี และยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับกลุ่มคนร้ายมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้เคยถูกขู่ฆ่าจากอดีตภรรยาของเพื่อนชายชาวต่างชาติ
         โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ถูกกลุ่มคนร้ายปลอมโปรไฟล์เป็นผู้หญิง ใช้แอพพลิเคชั่น “Whatsapp” (วอทซแอป) ทำทีเป็นลูกค้าติดต่อขอดูภาพวาดงานศิลปะ และมีการนัดหมายกันที่บริเวณร้านอาหารดังกล่าว แต่ปรากฎว่าถึงเวลานัดหมาย กลับไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นฝรั่งชาวยุโรป 2 คน ได้ฉุดกระชากเข้าไปบริเวณด้านหลังบ้านร้างบริเวณดังกล่าว ก่อนจะลงมือใช้สายไฟ และเทปกาวพันธนาการมือเท้า เอาน้ำกรดสาด มีดกรีด แล้วหลบหนีไปทันที
         หลังเกิดเหตุ ตำรวจสามารถยึดของกลางได้ เป็นมีดคัตเตอร์ ค้อน เทปกาว สายไฟ และแก้วน้ำ โดยได้นำหลักฐานสำคัญที่ตกหล่นอยู่บริเวณเกิดเหตุ ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน ไปทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอของคนร้าย พร้อมตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด และสอบพยานแวดล้อม จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายคือ นายดาเนียล มาเจวสกี้ (Mr.Daniel Majewski) อายุ 22 ปี และนายแมทธิว พิออต ครินิคกี (Mr.Mateusz Piotr Krynicki) อายุ 31 ปี สองคนร้ายชาวโปแลนด์
         นอกจากนี้ไล่เรียงลำดับไทม์ไลน์การก่อเหตุของสองคนร้ายชาวโปแลนด์ พบว่าได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และมาพักอาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านเขาพระตำหนัก พัทยาใต้ ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ก่อนทั้งคู่จะมีการขับรถจักรยานยนต์มาดูลาดเลาบริเวณจุดเกิดเหตุ วันที่ 31 ต.ค. จนกระทั่งมาลงมือวันที่ 1 พ.ย. โดยคนร้ายได้ขับรถ จยย. ออกมาจากที่พัก ก่อนจะจอดรถทิ้งไว้บริเวณร้านกาแฟใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อสบโอกาสจึงได้ลงมือก่อเหตุทำร้ายอย่างโหดร้ายและทารุณ หลังก่อเหตุคนร้ายได้แยกย้ายกันหลบหนี ทั้งนี้จากการไปตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออก จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าคนร้ายทั้งสองเดินทางออกไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. หลังก่อเหตุเพียง 2 วัน โดยเชื่อว่าคนร้ายได้มีการเตรียมการและวางแผนมาอย่างดี
          จนกระทั่งวันที่ 10 พ.ย. ศาลจังหวัดพัทยา ได้อนุมัติออกหมายจับคนร้ายทั้ง 2 คน ในข้อหาร่วมกันทำร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำและหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
           อย่างไรก็ตาม ได้ส่งเรื่องไปยัง “อินเตอร์โพล” เพื่อพิจารณาออกหมายจับคนร้ายสากลแล้ว ส่วนชนวนการลงมือครั้งนี้ เบื้องต้นมุ่งประเด็นไปทางชู้สาว แต่ก็คงจะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยยืนยันว่าในคดีดังกล่าว ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่และรัดกุม
Subscribe
Advertisement