เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 3 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุงได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าหญิงไทยและลูกสาวถูกกักขังอยู่ภายในห้องพักไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ สภ.บางละมุงจึงได้ประสานไปยังมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยาให้นำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าสนับสนุน
ที่เกิดเหตุห้องพักเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบแล้วว่าห้องถูกล็อคจากด้านนอก เป็นแม่กุญแจขนาดใหญ่ จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ทำการตัดโดยอุปกรณ์ตัดถ่างจึงสามารถช่วยหญิงไทยและลูกสาวออกมาได้อย่างปลอดภัย
จากการสอบถาม น.ส.สมพิศ แช่เจี้ย อายุ 55 ปี เล่าด้วยความโมโห ตนได้รู้จักทอมผู้ก่อเหตุก่อนจะเข้ามาพักอาศัยด้วย ตนไม่มีคนช่วยขายของจึงให้มาพักอาศัยด้วยและให้ช่วยขายของ ซึ่งตนมีอาชีพขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัดก่อนที่ทอมผู้ก่อเหตุจะมาสารภาพรักบอกว่าชอบตนแต่ตนปฏิเสธบอกว่าแก่แล้วจะมาชอบอะไรก่อนที่ทอมจะบีบคอตนเอง
ตนได้บอกเรื่องที่บ้านไปแล้วถึงพฤติกรรมที่ตนถูกทำร้าย มาวันนี้ตนและลูกสาวได้พากันหลับนอน กะว่าเช้าแล้วทอมคนดังกล่าวจะออกไปจากบ้านของตนโดยที่ไม่ได้ติดใจเรื่องการทำร้ายร่างกาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาก่อเหตุล็อคหน้าห้องของตนและได้ขโมยเงินในกระเป๋าไปจำนวน 6 พันบาท พร้อมทั้งได้มือถือ 1 เครื่อง ถึงจะราคาไม่แพง แต่ด้วยความเสียดายเงิน 6 พันบาท เพราะวันนี้ตนต้องจ่ายค่าห้องและใช้จ่ายเจ้าหนี้ด้วย ส่วนวันนี้ที่ตนได้สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วย ลูกสาวตนได้โพสต์ลงเพจพัทยาทอล์คขอความช่วยเหลือก่อนมีพลเมืองดีเห็นข้อความดังกล่าวจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลือ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บางละมุงก่อนให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลและติดตามคนร้ายสาวทอมรายนี้ ตอนนี้ทราบเพียงชื่อเล่นของผู้ก่อเหตุ โดยผู้เสียหายมีข้อมูลเพียงเท่านี้ แต่มีการติดต่อไปญาติของผู้ก่อเหตุ คาดยังหนีไปไม่ไกล คงจะสามารถจับตัวคนร้ายได้โดยเร็ววัน
Advertisement
