เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 กันยายน 2563 พ.ต.ท.ราชพิภพ ขุมทรัพย์ สารวัตรสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.ต.อิชยา สิทธิธูรณ์ สารวัตรสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ร่วมกับ พ.ต.ท.ประเสริฐ บุญศาสศรี สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรคอหงส์ นำหมายศาลจังหวัดสงขลา ที่ 404/2563 ลงวันที่ 31 สิงหาคม ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” บุกเข้าจับกุมนายอนุชา บุญยืน อายุ 39 ปี ภายในบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เลขที่ 99/33 ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 6 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยนายอนุชาได้ออกมาที่หน้าบ้าน ตำรวจได้อ่านหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาให้ฟัง ซึ่งนายอนุชายอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับในหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับในคดีดังกล่าวมาก่อน เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ฉ้อโกงใคร
ต่อมาตำรวจชุดจับกุมได้คุมตัวนายอนุชาไปลงบันทึกการจับกุมที่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด หลังจากนั้นจะได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท.กีรติ ตรีวัย สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคอหงส์ ให้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดีต่อไป
สอบถามนายเอ ผู้เสียหายที่ตามมาชี้ตัว (แต่ไม่ให้ถ่ายใบหน้าจึงได้อัดเสียงมา) เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเพราะมีตำรวจยศ พ.ต.ท.ตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับการสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง เป็นหัวหน้าใหญ่ มีเครือข่ายจำนวนมาก ได้โทรศัพท์มาแล้วพูดจาหว่านล้อมหลอกให้ลงทุนเกี่ยวกับกีฬาสปอร์ต โดยจะได้ผลดอกตอบแทนสูงและยืนยันพี่เป็นตำรวจเอายศตำแหน่งเป็นประกัน ตนเห็นเป็นตำรวจที่น่าเชื่อถือได้จึงได้ร่วมลงทุน โดยไปกู้ยืมเงินมาหลายแสนบาท แล้วยังไปชวนเพื่อนๆ รวมทั้งตำรวจที่ภาคใต้ประมาณ 20 คน ที่หลงกลร่วมลงทุนเงินไป โดยรวมทั่วประเทศน่าจะเป็นหลายร้อยราย วงเงินกว่า 10 ล้านบาท
โดยตำรวจยศ พ.ต.ท.ก็มีหมายศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับไปแล้ว ไม่ทราบว่าตำรวจกองปราบรวบตัวหรือยัง ตอนนี้ตนเดือดร้อนมาก เงินจะซื้อข้าวกินยังแทบไม่มีเลย เงินเดือนก็น้อยนิด ไหนจะเงินกู้ที่ต้องใช้คืนเขา แล้วตนก็เอาที่ดินไปจำนองเขาอีก ฝากบอกตำรวจ พ.ต.ท.คนนี้ ทำอะไรไว้ก็ขอให้รับกรรมไป ใครที่ยังไม่ได้แจ้งความให้ไปแจ้งความไว้ เชื่อว่ายังมีอีกหลายคน
Advertisement
