วินจักรยานยนต์รับจ้างเจ้าถิ่นปะทะแท็กซี่กรุงเทพฯ

(12 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจากบุคคลไม่ประสงค์ออกนาม (เพราะเกรงว่าตนเองกับครอบครัวจะไม่ปลอดภัย) ได้เปิดเผยว่า เรื่องราวคลิปนาทีเหตุการณ์ ชายสวมเสื้อวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 คน กำลังรุมทำร้ายลุงขับรถแท็กซี่ต่อหน้าผู้โดยสาร ซึ่งกล้องหน้ารถสามารถบันทึกภาพไว้ได้

ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของคลิปรายนี้ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่งของวันที่ 10 มี.ค.67 ที่ผ่านมา บังเอิญขับรถผ่านมาบริเวณสถานีรถทัวร์โดยสารแห่งหนึ่งย่านพัทยาเหนือ หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในจังหวะที่กำลังขับรถเบี่ยงออกทางซ้ายเพื่อหลบรถทัวร์นำเที่ยว ก็มาเห็นเหตุการณ์ลุงขับรถแท็กซี่พยายามยกไม้กอล์ฟจะตี ชายขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง จากนั้นก็มีวินจักรยานยนต์รับจ้างอีก 1 คน วิ่งถือไม้กวาด ปรี่เข้าไปหาลุงขับแท็กซี่ จนเสียหลักล้ม จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันรุมทำร้ายลุงขับแท็กซี่ ด้วยความกลัวว่ารถของตนเองจะถูกลูกหลงด้วย จึงขับรถออกมา โดยไม่ทราบว่าหลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ และได้พูดคุยกับนายแม็ก วินและนายป๊อบ ซึ่งเป็นวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ปรากฏในคลิป ทั้ง 2 คนเล่าตรงกันว่า ในวันเกิดเหตุ ได้มีรถแท็กซี่สีขาว จากกรุงเทพฯ มาจอดบริเวณหน้าวิน แล้วรับผู้โดยสาร นายแม็กจึงเข้าไปพูดคุยกับคนขับรถแท็กซี่ โดยบอกว่า “จอดรับไม่ได้นะ มันหน้าวิน” จากนั้นคนขับแท็กซี่พูดสวนกลับมาว่า “มึงเก๋าหรอ เดี๋ยวมึงเจอกู กูตำรวจเก่า” จากนั้นคนขับรถแท็กซี่ก็ถือไม้กอล์ฟลงมาจากรถ จากนั้นก็เป็นไปตามคลิป

ขณะที่นายป๊อบยอมรับว่าตัวเองเป็นคนถือไม้กวาด สาเหตุต้องแสดงพฤติกรรมดังกล่าวเพราะต้องการช่วยเพื่อน ซึ่งในขณะนั้นกลัวว่าเพื่อนจะได้รับอันตราย เพราะคนขับรถแท็กซี่ถือไม้กอล์ฟ ทำท่าจะฟาดเพื่อน ยืนยันว่าตนเองไม่มีเจตนาจะทำร้าย อีกทั้ง พวกตนเองพูดจาดีกับคนขับรถแท็กซี่แล้ว แต่แท็กซี่ยังพูดจาต่อว่าและหาเรื่องผู้ตนเองก่อน โดยที่ผ่านมาพวกตนทำงานสุจริต และไม่เคยมีปัญหาเรื่องแย่งลูกค้า ปัจจุบันวิ่งวินได้วันละไม่ถึง 300 บาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะใช้เรียกบริการรถรับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งตนเองก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ แต่อยากให้เพื่อนร่วมอาชีพปฏิบัติตามกฎ ส่วนในเรื่องนี้หากตำรวจมีการเรียกตัวไปสอบสวน พร้อมให้ความร่วมมือ โดยยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปเพราะต้องการป้องกันตัว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับการยืนยันว่าในเรื่องนี้ยังไม่มีผู้เสียหายหรือใครมาแจ้งความ แต่จากภาพดังกล่าวที่ปรากฏออกไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป

Subscribe
Advertisement