แม่วัยรุ่นแค้นพ่อของลูก บีบคอ-ทุบตี ลูกสาววัย 6 เดือน โพสต์ลงเฟสบุ๊ค มูลนิธิเป็นหนึ่ง รุดช่วยเหลือเหยื่อ

        เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ธ.ค.66 นางชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ จาก มูลนิธิเป็นหนึ่ง และนางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 15 หมู่ 5 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการประสานจาก นายท็อป (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ว่าถูกอดีตแฟนสาว โพสต์คลิปบีบคอลูกสาววัย 6 เดือน ลงเฟสบุ๊ค เพราะโกรธแค้นที่ตนเองเลิกรา และทิ้งไปมีแฟนใหม่ แล้วใช้อารมณ์ไปลงกับลูกสาวด้วยการทำร้าย
        นายท็อป (นามสมมุติ) เล่าให้ฟังว่า แอบคบหากับนางสาวโบว์ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี มาเป็นเวลา 4 ปี และเพิ่งเลิกรากันเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา หลังจากเลิกรากับนางสาวโบว์ได้ 2 เดือน ตนเองก็มาทราบว่า นางสาวโบว์ตั้งท้อง และอดีตแฟนยืนยันว่าเด็กในท้องคือลูกของตน ซึ่งก่อนจะมีการฝากครรภ์ ทางโรงพยาบาลได้นัดไปตรวจเลือดทั้งพ่อและแม่ ซึ่งตนเองก็เดินทางไปตรวจเลือดตามปกติ แต่ถึงวันฝากครรภ์ นางสาวโบว์ขอเอกสารสำคัญของตน 6 ใบ ซึ่งตนก็ไม่กล้าให้ จากนั้นตนก็ขาดการติดต่อกับนางสาวโบว์ (อดีตแฟน) จนกระทั่งนางสาวโบว์คลอดลูก พอตนทราบข่าวจึงพยายามติดต่อขอเห็นหน้าลูก พร้อมทั้งจะไปเซ็นรับรองบุตรในสูติบัตร แต่ปรากฏว่าในใบสูติบัตรกับไม่มีชื่อของตน ตนจึงคิดว่าอดีตแฟนคงไม่อยากให้ตนไปยุ่งเกี่ยวกับลูก
        จนเวลาผ่านไปไม่นาน ได้รับการติดต่อจากอดีตแฟน พร้อมกับข้อความว่า ขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอ และขอเงินค่าเลี้ยงดูลูก เพื่อจะได้เซ็นรับรองบุตร ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่าตนเองไม่มีเงินไปตรวจ จึงไม่รู้จะทำวิธีไหน ประกอบอดีตแฟนกับแฟนใหม่ เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ทำให้เรื่องราวเกิดบานปลายถึงขั้นตนต้องเลิกรากับแฟนใหม่ จากนั้นอดีตแฟนก็เริ่มส่งข้อความแชทขู่จะฆ่าลูก อ้างว่าไม่อยากเลี้ยง เลี้ยงยากต่างๆ นานา แถมยังส่งคลิปตีหลังลูกมาขู่ หนักสุดเมื่อคืนวันที่ 22 ธ.ค. อดีตแฟนไปโพสต์คลิปบีบคอลูกสาวลงเฟสบุ๊ค ตนเองจึงตัดสินใจส่งเรื่องราวร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิเป็นหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือลูกสาว ออกมาจากบ้านของอดีตแฟน และพร้อมที่จะรับเลี้ยงลูกสาวด้วยตนเอง
       ขณะที่นางชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ จากมูลนิธิเป็นหนึ่ง และนางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่านางสาวโบว์ (นามสมมุติ) เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่และอดีตแฟน ก็เกิดอาการคล้ายคนสติแตก พูดจาไม่รู้เรื่อง พร้อมทั้งดึงมือเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยภายในห้องพัก ก่อนจะยอมรับว่าลงมือทำร้ายลูกสาวจริง เหตุเพราะโกรธแค้นพ่อของลูก ที่ทิ้งไปมีแฟนใหม่ และไม่สนใจใยดี ประกอบกับไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงิน จนต้องไปยืมเงินเพื่อนมาซื้อนมให้ลูก จนเกิดอาการเครียด เลยไปลงกับลูกด้วยวิธีดังกล่าว และไม่อยากจะเลี้ยงลูกคนนี้แล้ว โดยคุณต้นอ้อ และ จนท.พม. มีการพูดคุยกับนางสาวโบว์ นานเกือบ 1 ชม. สุดท้ายนางสาวโบว์เริ่มใจเย็นลง และรับปากจะไม่ทำแบบนี้กับลูกอีก พร้อมทั้งยืนยันว่า อยากให้พ่อของลูกมารับผิดชอบช่วยเหลือ ส่งเงินให้เดือนละ 5,000 บาท ส่วนผู้เป็นพ่อได้เห็นหน้าและอุ้มลูกสาวเป็นครัังแรก ก็ถึงน้ำตาคลอเบ้า พร้อมทั้งรับปากจะช่วยส่งเงินให้ลูกเดือนละ 2,000 บาท แต่ถ้ามีมากกว่านั้น ก็จะส่งให้เรื่อยๆ
        ด้านนางสาว บี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี แม่ของนางสาวโบว์ เมื่อเห็นคลิปว่าหลานสาวถูกแม่บีบคอและทุบตี ก็ถึงกับตกใจ พร้อมกับรับปากว่าจากนี้ไปจะดูแลหลานเป็นอย่างดี และจะไม่ให้คลาดสายตา และขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่นำหลานไปดูแล โดยยอมรับว่าลูกสาวหลังจากคลอดก็มีอาการเครียด ทั้งในเรื่องของพ่อของลูก เรื่องไม่มีงานทำ และไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และ รู้สึกเสียใจที่หลานต้องมาตกเป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของผู้เป็นแม่
      นางชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ จากมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องราวใช้ความรุนแรงกับเด็กที่ไร้เดียงสา จึงได้มีการประสานกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เข้ามาทำการช่วยเหลือ ซึ่งในเคสนี้ เบื้องต้นครอบครัวของทางฝ่ายหญิงรับปากว่าจะดูแลเด็กเป็นอย่างดี และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก จึงอยากฝากไปถึงทุกครอบครัวว่าในประเทศไทยมีเคสลักษณะนี้เกิดขึ้นเยอะมาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงทำร้ายเด็ก เพื่อประชดประชันกัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผู้ใหญ่ที่เลิกรากันไป แล้วเอาอารมณ์โกรธเกลียดมาลงกับลูก เพื่อเรียกร้องความสนใจ สุดท้ายแล้วเด็กก็ต้องตกเป็นเครื่องมือของอารมณ์ผู้ใหญ่ที่ทะเลาะวิวาทกันเอง จึงฝากถึงพ่อและแม่ ถึงแม้จะเลิกกันแล้ว ขอให้ทำหน้าที่พ่อและแม่ดีกว่า อย่าประชดประชันด้วยการนำเด็กมาทำร้ายร่างกาย
Subscribe
Advertisement