ถนนหลายสายในเมืองพัทยากลับมาสัญจรได้แล้ว พบแต่รถของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมเสียหายจอดกีดขวางการจราจรหลายคัน

           ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์สภาพอากาศว่า จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 10-12 ก.ย.มีลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตรนั้น

          ทั้งนี้เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 12 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่อำเภอบางละมุง มีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ปริมาณน้ำเอ่อขึ้นท่วมอย่างรวดเร็ว ตามถนนเส้นต่างๆ โดยเฉพาะจุดที่มีการท่วมขังเป็นประจำทุกครั้งที่ฝนตกลงมาติดต่อกันนานเกิน 1 ชั่วโมง เช่น ถนนเส้นเลียบชายหาดพัทยา ถนนสายสามพัทยาช่วงบริเวณแยกเพนียดช้าง หรือแยกมุมอร่อย ถนนพัทยาใต้ ถนนสุขุมวิท พัทยาใต้ ถนนสุขุมวิทก่อนถึงแยกชัยพฤกษ์ ถนนเลียบทางรถไฟ ช่วงซอยเขาตาโล ถึงซอยวัดธรรมสามัคคี

           ล่าสุดเวลา 05.30 น.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจถนนสุขุมวิท ถนนเลียบทางรถไฟ และหลายๆ สาย หลังจากฝนหยุดและน้ำเริ่มลดแล้ว ทำให้การจราจรหลายสายในเขตเมืองพัทยา และอำเภอบางละมุง รถเริ่มกลับมาสัญจรได้ตามปกติ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลังจากฝนหยุดตก 2-3 ชั่วโมง น้ำที่ท่วมขังอยู่จะระบายลงท่อได้อย่างรวดเร็ว

          นอกจากนี้ทางผู้สื่อข่าวยังพบรถของประชาชนที่เสียหายจากน้ำท่วม จอดทิ้งไว้บริเวณถนนโดยจอดกีดขวางการจราจร บนถนนสุขวิทพัทยาใต้ จำนวน 2 ช่องทาง และไม่มีไฟ และบริเวณทางรถไฟยังพบรถยนต์ของพี่น้องประชาชนอีก 1 คัน จอดกีดขวางทาง และท้ายรถติดอยู่บนแท่งแบริเออร์ข้างทาง และมีแฟนของเจ้าของรถยืนรอรถยกมาช่วยเหลืออยู่

         ด้านแฟนเจ้าของรถคันดังกล่าวได้บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่าตอนเกิดเหตุ ไฟถนนมืดมากและมีฝนตกแรง แฟนเป็นผู้หญิงขับมาคนเดียว พอมาถึงที่เกิดเหตุแล้วมีน้ำท่วมขังและน้ำมาเร็วมากพัดรถหมุนขึ้นไปติดอยู่บนแท่งแบริเออร์ ซึ่งพบว่าน้ำตรงนี้สูงมากถึงหน้าอก แฟนจึงโทรให้ตนมารับดังกล่าว