ตำรวจภูธรแสนสุข ร่วมกับตำรวจสืบสวนนครบาล 8 จับกุมคนร้ายลวงขายลูกสุนัขผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนเชิดเงินหลบหนี พบผู้เสียหายเพียบ

         เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 มีนาคม 65 พ.ต.ท.ประยงค์ ศรีวิพันธ์ สารวัตรสืบสวน สภ.แสนสุข พร้อมด้วยกำลังตำรวจ สภ.แสนสุข ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 จับกุมตัว น.ส.ปวิตรา อิ่มเจริญ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ในข้อหาฉ้อโกงโดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
          โดยจับกุมได้ที่ร้านลิมจั้วไถ่ ถ.สันติภาพ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ขณะกำลังทำงานอยู่ที่ร้านดังกล่าว ช่วงที่ควบคุมตัว น.ส.ปวิตรา มาดำเนินคดีที่ สภ.แสนสุข สามี น.ส.ปวิตราได้ขี่รถจักรยานยนต์จากกรุงเทพฯ มา สภ.แสนสุข ที่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยมีลูกชาย 3 ขวบ นั่งรถจักรยานยนต์มาด้วย ลูกชายได้ร้องไห้และจะเข้าไปที่คุมขังด้วยเพื่อจะอยู่กับแม่ สร้างความอนาถใจให้กับผู้พบเห็น
         ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข ว่า ได้ถูกผู้ต้องหาหลอกขายลูกสุนัขทางเฟซบุ๊ก เมื่อผู้เสียหายได้โอนเงินไป จำนวน 6,000 บาท กลับไม่มีการส่งสินค้าและไม่สามารถติดต่อทางเฟซบุ๊กได้อีก นอกจากนี้จากการตรวจสอบอย่างละเอียดในสารระบบคอมพิวเตอร์พบว่าได้ก่อเหตุฉ้อโกงบุคคลอื่นอีกจำนวนมาก จึงได้ดำเนินการจับกุม น.ส.ปวิตรามาดำเนินคดีดังกล่าว
ต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหามา สภ.แสนสุข โดยมี พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.แสนสุข ได้ดำเนินการสอบปากคำด้วยตนเอง โดย น.ส.ปวิตราให้การว่า ตนเองได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในปี 2562 เนื่องมีลูกอ่อนประกอบกับมีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน และคนในบ้านไม่มีงานทำ ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงได้ตัดสินใจโพสต์ข้อความลงในโซเชียลเกี่ยวกับการขายสุนัข ขายหน้ากากอนามัย ขายต้นไม้ ทำให้มีรายได้มาจำนวนหนึ่ง บางรายหลอกลวงไปเป็นเงินนับแสนบาท ก็ได้นำเงินไปใช้เป็นค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่านมลูก จึงได้ลงมือกระทำผิดดังกล่าว
         พ.ต.อ.พัฒนา กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยกระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงขายสินค้าผ่านโซเชียลมาตั้งแต่ปี 62 และถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่ได้มีการยอมความกัน และการถูกจับในครั้งนี้ในข้อหาคดีฉ้อโกง และเอาข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ยอมความไม่ได้ ต้องดำเนินคดีทางศาล ซึ่งตำรวจได้ตั้งเงินประกันตัว 50,000 บาท หากไม่สามารถนำเงินมาประกันตัวได้ก็ต้องส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำต่อไป

Subscribe
Advertisement