ชุดสอบส่วย “คลับวัน” สอบผู้ประกอบการสถานบันเทิงพัทยา หลังภาพโพยจ่ายเงินส่วยว่อนเน็ต จ่อฟ้องเพจเสนอข่าวบิดเบือน

           เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 25 ตุลาคม 2565 พ.ต.อ.โสฬส เอี่ยมสะอาด รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจสอบข้อเท็จจริง “คลับวัน พัทยา” เรียกผู้ประกอบการสถานบันเทิง และกลุ่มบาร์เบียร์นับ 10 ราย เพื่อเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมหาข้อเท็จจริงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชนและโลกโซเชียล เกี่ยวกับการนำกำลังเข้าจับกุม ตรวจสอบ สถานบันเทิง “คลับวัน พัทยา” ถ.เพ็ชรตระกูล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนมีภาพข่าวการกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการ โดยระบุว่ามีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลจากการนำกำลังเข้าตรวจสอบครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาเสพติดได้จำนวนหนึ่ง ขณะที่นักท่องเที่ยวนับสองร้อยรายไม่สามารถตรวจสารเสพติดในปัสสาวะได้ เนื่องจากพากันกรูหนีออกจากตัวผับ ด้วยกำลังของเจ้าหน้าที่มีเพียงไม่กี่สิบรายเท่านั้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ได้ตั้งข้อหาไว้ 4 ข้อหาหนัก  1. จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด 3. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปสถานที่ของตน

         ขณะที่กรณีดังกล่าวเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีบางเพจในโลกโซเชียล นำเสนอภาพการประชุมและทานอาหารร่วมกันระหว่าง พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กับ คณะ กต. ตร.สภ.เมืองพัทยา และผู้ประกอบการสถานบันเทิงและบาร์เบียร์บางส่วน พร้อมกับนำภาพกระดาษขนาด A4 ที่มีการเขียนข้อความด้วยลายมือ ระบุรายชื่อสถานบริการประเภทผับหลายแห่งในเมืองพัทยา พร้อมกับมีตัวเลขยอดเงินตามท้ายชื่อของแต่ละร้าน ระบุจำนวนเงิน 30,000 บาท บางร้านมียอด 15,000 บาท จนทำให้ภาพลักษณ์ด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และภาคการท่องเที่ยวเสียหาย

         ด้านนางอำพร แก้วแสง ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา ในฐานะเจ้าของกิจการร้าน Stone House ในโครงการวอล์คกิ้งสตรีท เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ประกอบการมีการประสานงานร่วมกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนโยบายของภาครัฐเรื่องการจัดระเบียบสังคมและมาตรการควบคุมโรค โดยไม่มีเรื่องของการส่งส่วยตามที่มีการนำเสนออย่างแน่นอน และภาพที่ปรากฏตามสื่อเกี่ยวกับกระดาษโพยส่งส่วยในวันประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เป็นเพียงการประชุมสัญจรของคณะกรรมการ กต.ตร. สภ.เมืองพัทยา เพื่อแนะนำตัวผู้การจังหวัดชลบุรีคนใหม่เท่านั้น โดยได้มีการเชิญผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่เมืองพัทยา เข้าร่วมจำนวนมาก โดยวันนั้นผู้การชลบุรีก็ได้ชี้แจงแนวทางนโยบายในการป้องกันเรื่องของปัญหายาเสพติด อาวุธปืน และการดูแลนักท่องเที่ยว อีกทั้งเพื่อหารือแนวทางพัฒนา สภ.เมืองพัทยา เท่านั้น ยันไม่มีการพูดคุยเรื่องของการเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการแต่อย่างใด ส่วนกระดาษที่มีการแชร์รายชื่อสถานบันเทิงต่าง ๆ พร้อมจำนวนเงินนั้น เชื่อว่าเป็นการปลุกปั่นทำลายภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเมืองพัทยา

           ขณะที่ น.ส.สุพัตรา ชลพล เจ้าของกิจการในวอล์คกิ้งสตรีท พัทยา กล่าวว่าที่ผ่านมาผู้ประกอบการสถานบันเทิงพัทยาปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แม้ที่ผ่านมาสถานการณ์การท่องเที่ยวในพัทยาจะยังไม่ดีในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม โดยยังคงเข้มงวดเป็นพิเศษในเรื่องที่รัฐขอความร่วมมือ ทั้งเรื่องของอาวุธ ยาเสพติด เยาวชน และการค้ามนุษย์ และขอยืนยันว่าไม่มีผู้ประกอบการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างแน่นอน ดังนั้นการนำภาพกระดาษโพยส่งส่วยมาลงในสื่อดูแล้วพบว่ารายชื่อหลายรายปิดตัวลงไปแล้ว เรื่องนี้ไม่ทราบเจตนาของคนจัดทำแต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ทำให้เกิดความเสียหายทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ด้านการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจากนี้จะทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีฟ้องร้องกับสื่อบ้างราย รวมถึงเพจในโลกโซเซียลบางเพจที่มีการนำเสนอภาพที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงต่อไป