เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 พ.ค.67 พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง พร้อมชุดสืบสวน นำกำลังเข้าทำการจับกุม นายอรรคเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี พร้อมยึดอาวุธปืนบีบีกัน แบบลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก ได้ภายในชุมชนโรงเลื่อย บ้านโรงโป๊ะ หมู่ 3 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมีผู้เสียหายได้นำคลิปขณะที่นายอรรคเดช ถืออาวุธปืนดังกล่าวข่มขู่คู่กรณี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน ภายในชุมชนโรงเลื่อยดังกล่าว
เบื้องต้นนายอรรคเดชยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปจริง ส่วนอาวุธปืนที่นำไปขู่ เป็นอาวุธปืนบีบีกัน เพียงต้องการนำไปขู่คู่กรณีเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ตนเองโกรธแค้นที่คู่กรณีรุมต่อย ส่วนสาเหตุมาจากตนเองพยายามจะช่วยเพื่อน ซึ่งเป็นลูกเขยของคู่กรณี โดยฝ่ายลูกเขยถูกพ่อตาต่อย ตนทนไม่ได้จึงเข้าไปห้าม แต่กลับกลายเป็นว่าตนเอง ถูกต่อยแทน ด้วยความโมโหจึงนำอาวุธปืนมาข่มขู่ตามที่ปรากฏในคลิป เบื้องต้นตำรวจสั่งการแจ้งข้อกล่าวหาข่มขู่ จากนั้นส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการเปรียบเทียบปรับ ก่อนจะปล่อยตัวไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังชายคู่กรณี อายุ 42 ปี เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 5 พ.ค.67 ตนเองกับลูกเขยมีปัญหากัน เพราะตนเองทนไม่ได้ที่ลูกเขยชอบทะเลาะกับลูกสาวของตนบ่อยครั้ง ด้วยความสุดทนและสงสารลูกสาว ซึ่งอายุเพียง 18 ปี ตนเองจึงต่อว่า ลูกเขย ถึงขั้นมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง
ต่อมานายอรรคเดช คู่กรณีและเป็นเพื่อนบ้าน อยู่ในชุมชนเดียวกัน เข้ามาต่อว่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนเกิดการชกต่อยกัน อีกทั้งนายอรรคเดชยังใช้ก้อนหินทุบหัวเพื่อนอีกคนจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นนายอรรคเดชก็วิ่งกลับบ้าน แล้วถืออาวุธปืนมาข่มขู่ดังกล่าว ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม แต่ตนเห็นท่าไม่ดี จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางละมุง ซึ่งหลังจากฝ่ายคู่กรณีถูกจับกุม ตนเองก็อยากให้ต่างคนต่างอยู่ และเลิกแล้วต่อกัน แต่ระหว่างที่นายอรรคเดชถูกควบคุมตัวอยู่โรงพัก นายอรรคเดชก็เหมือนพูดลอยๆว่า “แค่นี้ ทำอะไรกูไม่หรอก” ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าฝ่ายคู่กรณีจะจบ แต่ส่วนตัวยืนยันว่าขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงแค่นี้
