รอง.ผบช.ภ2 ลุยไขปมสาวคีร์กีซสถานดิ่งคอนโดดับปริศนา พบข้อความให้ปากคำถูกแก๊งจีนโหดบังคับทำงาน คอลเซ็นเตอร์-ค้ากาม

          จากกรณีปมฆ่าตัวตายปริศนาของ นางสาว เอเนร่า เซียทาเลว่า (Ms.Anara Seitaleva) อายุ 30 ปี ชาวคีร์กีซสถาน ก่อเหตุกระโดดตึกคอนโดหรู ย่านถนนเขาทัพพระยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากชั้นที่ 7 จนเสียชีวิตคาที่ พบก่อนหน้าจะก่อเหตุปลิดชีพตัวเอง 3 วัน เข้าแจ้งความกับตำรวจไทย ถูกแก๊งค์ชาวจีนไล่ล่า เพราะหนีออกมาจากการถูกบังคับค้าประเวณีในพื้นที่เมืองพัทยา ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
         ล่าสุดในช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.65 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง.ผบช.ภ.2 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งรับฟังการรายงานสรุปเบื้องต้นของคดี นอกจากนี้ยังได้ร่วมสอบปากคำ Mr.Bechstein Hans Matthias อายุ 58 ปี ชาวเยอรมัน อดีตแฟนของเพื่อนสาวสัญชาติเดียวกันกับผู้ตาย และเป็นเจ้าของห้องพักที่ผู้ตายมาขออาศัยหลบภัยจากแก๊งชาวจีน เปิดเผยเพียงว่ารู้จักกับผู้ตาย เพราะเคยคบกับเพื่อนผู้ตาย จนกระทั่งเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ผู้ตายได้ขอมาอาศัยด้วย บอกเพียงว่ามีปัญหากับกลุ่มคนจีน ส่วนสาเหตุไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเรื่องอะไร ระหว่างที่มาขอพักอาศัยตนก็พยายามปลอบผู้ตายมาโดยตลอด จนกระทั่งมาก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว
        สำหรับการบันทึกการสอบปากคำของนางสาวเอเนร่า เซียทาเลว่า (Ms.Anara Seitaleva) อายุ 30 ปี สัญชาติ สาธารณรัฐคีร์กีซสถาน หนังสือเดินทางเลขที่ AC 3503927 มีการเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการระบุถ้อยความในบันทึกสอบสวนปากคำว่า ได้รู้จักกับเพื่อนประเทศเดียวกันชักชวนให้ไปทำงานกับคนจีนที่ประเทศลาว ทำงานเกี่ยวกับท่องเที่ยว รายได้ประมาณ 2 หมื่นบาท ซึ่งผู้ตายสนใจ และในวันที่ 15 ก.ค.2565 ได้เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงราย มีคนจีนเป็นชาย 1 คน มารอรับที่สนามบิน แล้วพาไปนอนพักที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 1 คืน และในวันที่ 16 ก.ค.ชายจีนดังกล่าวได้พาเดินทางไปจังหวัดเชียงราย และพาข้ามแม่น้ำโขง ที่ด่านเชียงแสน นั่งเรือข้ามฟากไปฝังประเทศลาว เมื่อไปถึงคนจีนดังกล่าวได้พาไปกักตัวไว้ ลักษณะคล้ายโรงแรม ไม่ให้ไปไหน มีคนเฝ้าตลอด โดยคนเฝ้ามีอาวุธปืนด้วย
          และชายจีนดังกล่าวได้ยึดหนังสือเดินทางของผู้ตาย โดยแจ้งว่าจะนำไปทำวีซ่า จากนั้นได้บังคับให้ทำงานเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ผู้ตายไม่สามารถทำงานได้ จึงได้บังคับให้ขายบริการทางเพศ และมีการถ่ายวีดีโอขณะให้บริการลูกเค้าไว้เพื่อข่มขู่ไม่ให้หลบหนี โดยบังคับให้ค้าประเวณีหลายต่อหลายคน ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ชายจีนคนดังกล่าวและผู้หญิง น่าจะเป็นคนจีน ได้พาผู้ตาย เดินทางมาประเทศไทย เมื่อมาถึงได้มีหญิงชาวจีน และคนขับรถ มารับที่สนามบิน แล้วได้ไปพักที่ซอยสุขุมวิท 64 ที่กรุงเทพฯ และ บังคับให้ผู้ตายค้าประเวณี โดยได้พาไปส่งให้กับลูกค้าตามโรงแรมต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา ด้วยความกลัวที่ถูกขู่ฆ่า ประกอบกับกลัวจะถูกนำคลิปของตัวเองไปส่งไปให้ที่ประเทศบ้านเกิด จึงจำใจค้าประเวณีมาโดยตลอด จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้แอบลักลอบหลบหนีออกมา พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือมายังอดีตแฟนของเพื่อน ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน ซึ่งปัจจุบันอาศัยที่เมืองพัทยา ช่วยเหลือในการหลบซ่อนตัว ก่อนจะเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งชาวจีนโหดร้ายนี้อย่างถึงที่สุด
           พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ในคดีนี้ขอเวลาตำรวจสืบสวนสอบสวนให้เป็นที่กระจ่างมากกว่านี้ เบื้องต้นเป็นการฆ่าตัวเอง ส่วนปมสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ โดยจากแนวทางสืบสวนเชิงลึก พบว่าผู้ตายนับถือศาสนาอิสลาม โดยเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ด้วยการเช่าเหมาแท็กซี่มายังเมืองพัทยา เพื่อมาขอความช่วยเหลือจากอดีตแฟนของเพื่อนสัญชาติเดียวกัน ก่อนจะมีการเข้าแจ้งความ ส่วนเรื่องถูกชาวจีนบังคับให้ค้าประเวณี ในเรื่องนี้มีการประสานไปยังตำรวจ ปคม. ตม. และตำรวจท่องเที่ยว ให้เข้ามาร่วมคลี่คลายในคดีนี้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องปมถูกบังให้ค้าประเวณีข้ามชาติ ตำรวจขอเวลาสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

Subscribe
Advertisement