เมื่อเวลา 16.06 น.วันที่ 16 เมษายน 2567 นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง สั่งการให้นายพรชัย สังข์เอียด และนายพิชาญ์นนท์ ทวีสุข ปลัดอำเภอบางละมุง ลงพื้นที่ตรวจสอบและทำการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายน้ำกระท่อมต้ม 4 × 100 ร่วมกับนายกิตติ บุญรัตน์เนตร สาธารณสุขอำเภอบางละมุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางละมุง โดยสามารถจับคุณได้ทั้งหมด 3 ร้าน ได้ของ กลางรวมกันกว่า 2,000 ขวด และยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมอีกจำนวนมาก
โดยร้านแรกใช้ชื่อร้านใบเขียวชลบุรี สาขา 5 ในการออกบิลใบเสร็จ ตั้งอยู่ริมถนนภายในซอยเขาตาโล เป็นอาคารพาณิชย์เลขที่ 112/132 ซ.เขาตาโล ม.11 แต่ขณะที่ตัวอาคารติดป้ายชื่อร้านขนาดใหญ่ KING OF GREEN HERBS ครบเครื่องเรื่องสายเขียว ซึ่งเป็นร้านที่เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมมาแล้ว จากการตรวจสอบด้านล่างเปิดจำหน่ายน้ำต้มกระท่อมปรุงสำเร็จ มีใบกระท่อม จำนวนมากกองอยู่กับพื้น ด้านหลังร้านมีถังน้ำแข็งขนาดใหญ่สำหรับแช่น้ำกระท่อมปรุงสำเร็จ รอจำหน่ายให้กับลูกค้า
บนชั้นสองเป็นห้องสำหรับต้ม และปรุงแต่งรสชาติน้ำกระท่อม 4 × 100 และพบหม้อต้มขนาดใหญ่ จำนวน 6 หม้อ ในถุงขยะยังพบขวดยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมหลายยี่ห้อทิ้งไว้จำนวนมาก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจเจอยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม จำนวน 55 ขวด กระท่อมปรุงสำเร็จจำนวน 812 ขวด
ร้านที่สองชื่อร้านมิสเตอร์กระท่อม ตั้งอยู่ใกล้ร้านแรก มีเจ้าของร้านกำลังนั่งรอลูกค้า ตรวจพบน้ำกระท่อมปรุงสำเร็จพร้อมจำหน่ายแช่เย็นอยู่ในถังน้ำแข็งจำนวน 200 ขวด
ส่วนร้านที่สามคือร้านดังพัทยาสาขา 8 ตั้งอยู่ริมถนนซอยเขาตาโลเช่นกัน ซึ่งเป็นร้านที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุงเข้าจับกุมและตรวจยึดของกลางน้ำกระท่อมปลูกสำเร็จแต่งกลิ่นแต่งรสชาติ ได้ถึง 1,800 ขวด ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม 900 ขวด แต่ก็ยังคงเปิดลักลอบจำหน่าย พบของกลางเป็นน้ำกระท่อมปรุงสำเร็จอยู่ในถังแช่จำนวน 1,213 ขวด และกัญชาชนิดช่อดอก ที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ควบคุมตัวผู้รับเป็นเจ้าของร้านทั้งสามร้าน พร้อมของกลางน้ำกระท่อมปรุงสำเร็จจำนวน 2,225 ขวด ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมจำนวน 55 ขวด ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ข่าวยังรายงานอีกว่า ร้านดังพัทยา สาขา 8 มีคอมพิวเตอร์บันทึกยอดขาย ในทุกๆ 1 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีรายได้หมุนเวียนไม่ต่ำกว่าเดือนละกว่า 5-6 แสนบาท และทุกร้านนั้นเคยถูกจับมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ ยังคงฝ่าฝืนลักลอบจำหน่ายโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
