หนุ่มโรงงานสุดช้ำใจ เสียรู้แก๊งมิจฉาชีพ นำรถยนต์ไปกู้เงินในเว็บออนไลน์

นายชูศักดิ์ คำแก้ว อายุ 29 ปี ได้ติดต่อมายังทีมข่าวขอให้สื่อช่วยเป็นพยานในการติดต่อ ขอรับรถยนต์ของตนเองคืน หลังจากที่ได้นำรถยนต์ไปจำนำไว้ในเว็บออนไลน์ โดยมีการส่งมอบรถยนต์และรับเงินที่บริเวณหน้าโรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทราเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา จากนั้นได้มีการนัดส่งมอบรถคืนกันที่บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า พัทยากลาง

จากการสอบถามนายชูศักดิ์ได้เล่าด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า ตนเองเป็นคนจังหวัดอุบล ทำงานเป็นหนุ่มโรงงานอยู่ที่อมตะชลบุรี ล่าสุดครอบครัวมีปัญหาเรื่องการเงิน ตนเองไม่มีเงินส่งค่างวดรถยนต์อีซูซู ดีแม็กสีขาว ทะเบียน ยง-533ชบ. โดยมีการค้างค่างวดไว้ ทางบริษัทรถฯได้ติดต่อมา หากไม่ชำระเงินภายในวันที่ 14 มี.ค.ทางบริษัทก็จะขอมายึดรถ ซึ่งตนเองส่งมาแล้ว 5 ปี คงเหลีออีกแค่ 2 ปีก็จะส่งค่างวดหมดแล้ว และด้วยความที่ไม่กล้าบอกและปรึกษาใคร จึงได้ติดต่อไปยังเว็บไซต์ออนไลน์ที่ชื่อ B-You Wealth LH BANK ขึ่งเป็นเว็บฯกู้ยีมเงิน ตนเองจึงได้ติดต่อไปและขอฝากรถยนต์ฯคันดังกล่าวไว้ โดยขอกู้เงิน 40,000 บาทเท่านั้น โดยคนที่ตนสนทนาด้วยนั้นเป็นผู้หญิง แต่เมื่อนัดส่งมอบรถและรับเงินกัน ทางผู้หญิงที่ติดต่อไว้ ได้ให้ผู้ชายเป็นผู้นำเงินมาให้ พร้อมทั้งเขียนเอกสารให้ตนหนึ่งฉบับ ในเอกสารไม่ได้ระบุอะไรมากมาย ไม่มีบัตรประชาชน หรือสิ่งอี่นใด แต่สำหรับของตนเองนั้น ทางเว็บออนไลน์ขอเอกทุกอย่างของตัวรถ บัตรประชาชน ตนเองให้ไปหมด ขณะส่งมอบรถก็ไม่ให้ถ่ายรูปแต่อย่างใด

ต่อมาในวันรุ่งขึ้น นายชูศักดิ์ก็ได้นำเงินโอนไปให้บริษัทไฟแนนซ์รถจ่ายค่างวดเรียบร้อย จากนั้นได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรของเว็บออนไลน์ ที่เพิ่งกู้ยืมเงินมาเมี่อวานนี้เอง แต่กลับติดต่อไม่ได้ เบอร์นั้นไม่สามารถใช้งานได้อีก ตนเองคิดเอะใจแล้ว สงสัยจะโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกต้มตุ๋นแล้ว จึงได้ให้พี่ชายช่วยติดต่อไปในเพจของเว็บออนไลน์ดังกล่าว ปรากฏว่าถูกแอดมินเพจบล็อกอีกครั้ง หลังฝากข้อความไปประมาณว่า “รบกวนแอดมินเพจ ต้องการจะไถ่รถคืน แต่ติดต่อไม่ได้จะต้องทำอย่างไร” หลังจากที่ถูกบล็อกทุกช่องทางแล้ว ก็ได้มีสายโทรเข้ามาตามเบอร์ที่วางไว้ในเพจ เป็นผู้ชายโดยอ้างว่าตนเองครอบครองรถคันนี้อยู่ โดยมีผู้หญิงชื่อพลอย เอามาขายฝากไว้เมื่อวันก่อน ตอนนี้รถอยู่ที่พัทยา ถ้าอยากได้รถคืนให้โอนเงินมา 4 หมื่น แล้วมารับรถกลับคืนไป โดยนัดรับรถกันที่บิ๊กซีพัทยากลาง
ต่อมาทางนายชูศักดิ์และพี่ชายได้เดินทางมาตามนัดเพื่อขอรับรถยนต์คืน โดยชายดังกล่าวอ้างว่าตนเองชื่อบอย เป็นขาใหญ่ดูแลบ่อนในเมืองพัทยา รับจำนำรถเถื่อนเป็นอาชีพ ใครๆ ก็รู้จัก “บอยบ่อนเถื่อน” โดยอ้างว่าให้นายชูศักด์์โอนเงินก่อน ถึงจะให้ลูกน้องเอารถมาจอดคืนให้ แต่ทางผู้เป็นเจ้าของรถก็ยังไม่ยอมโอน เพราะไม่เชื่อใจและไม่มั่นใจว่าจะได้รถคืนหรือไม่ ถ้าโอนเงินให้ไปแล้ว จึงจะขอดูรถก่อนได้ไหม ซึ่งนายบอยก็ไม่ยอมทำตาม มิหนำซ้ำยังขู่กลับ จะเอารถข้ามไปขายส่งออกนอกประเทศในคืนนี้เลย หากไม่โอนเงินมาก่อน ต่างฝ่ายต่างเจรจากันอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง สุดท้ายทางเจ้าของรถยินดีที่จะโอนเงินให้ทางนายบอย แม้ยังไม่เห็นรถของตัวเองก็ตาม ในใจลึกๆ ของนายชูศักดิ์ก็คิดว่าหากไม่ได้รถคืนก็จะต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อไป เพราะเราเอาเงินเขามาจริงๆ ก็ต้องคืนเงินเขา เป็นเรื่องที่ควรทำ แม้รู้แก่ใจว่าโอกาสที่จะได้รถคืนนั้นน้อยมาก แต่ถ้าหากไม่โอนเงินไปให้นายบอย ก็จะไม่ได้เจอรถตนเองอีกเลย นายชูศักดิ์จึงตัดสินใจให้พื่ชายโอนเงินไปให้ทันที โดยไม่ต้องวางสายจากนายบอย ขณะที่กำลังทำการโอนเงินอยู่นั้น นายบอยอ้างว่าใกล้จะถึงจุดนัดหมายแล้วติดไฟแดงอยู่ แจ้งเลขบัญชีเจ้าของบัญชีเรียบร้อย พอได้รับแจ้งว่าเงินเข้าแล้ว นายบอยก็ปิดโทรศัพท์ทันทีติดต่อไม่ได้อีกเลย

ทางด้านนายชูศักดิ์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.พัทยาในเบื้องต้น ก่อนที่วันต่อมาทางผู้เสียหายได้เดินทางไปยัง สภ.บางปะกง ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ โดยอ้างว่าทางนายชูศักดิ์เป็นเพียงผู้ครอบครองรถ ยังไม่ใช่เจ้าของรถ จะต้องไปขอใบมอบอำนาจจากธนาคารของบริษัทไฟแนนซ์มาแสดงก่อน ถึงจะรับแจ้งความได้ ก็ทำให้ผู้เสียหายงง เพราะตนเองเป็นเจ้าของรถ ผ่อนส่งมา 5 ปีแล้ว ทำไมถึงแจ้งความเองไม่ได้ พร้อมทั้งได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จริง ในวันเกิดเหตุที่ส่งมอบรถกันข้างโรงไฟฟ้าบางปะกง ซึ่งจุดเกิดเหตุตรงนั้นมีกล้องวงวงจรปิดล้อมรอบ ทางด้านผู้เสียหายได้วิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับตัวกลุ่มมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว ก่อนที่จะไปเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครได้อีก

Subscribe
Advertisement