แก๊งโจรแสบ ก่อเหตุงัดเงินในตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญคืนเดียวสองรอบ เจ้าของตื่นมาเห็น จึงเผ่นหนีลอยนวล

         เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งข้อมูลจาก นายอรัญ ชูคันหอม อายุ 56 ปี ว่าที่บ้านเลขที่ 111/14 หมู่ 9 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเปิดให้บริการตู้ซักผ้าหยอดเหรียญที่หน้าบ้าน และเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.ของคืนที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชายหญิงสองคนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเขียวแมลงทับ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาที่ร้านโดยฝ่ายชายซึ่งเป็นคนขี่ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สีดำ ใส่เสื้อสีกรมท่า กางเกงขาสั้น ซ้อนผู้หญิงวัยกลางคน ใส่เสื้อคลุมสีดำ เสื้อด้านในสีขาว กางเกงขาสั้น โดยนั่งทับคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่มาด้วย ก่อนจะลงจากรถแล้วดึงคีมตัดเหล็กที่นั่งทับออกมา เตรียมจะก่อเหตุตัดแม่กุญแจของตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ แต่จังหวะนั้นสุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เห่ากรรโชกเสียงดังทำให้คนร้ายยกเลิกการก่อเหตุ ก่อนตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป (ตามภาพกล้องวงจรปิด )
          หลังจากนั้นในเวลาประมาณ ตีสี่กว่า ขณะนั้นเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและทำให้ไฟฟ้าดับ ก็ได้มีคนร้ายขับรถยนต์กระบะสีขาว มีหลังคาแครี่บอย ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มาทำการตัดแม่กุญแจ งัดเงินในตู้หยอดเหรียญทั้งสองตู้ไปจนหมดเกลี้ยง เหลือเศษเงินทิ้งไว้ 20 บาทให้ดูต่างหน้า ซึ่งระหว่างที่คนร้ายทำการงัดตู้อยู่นั้น ตนเองเกิดร้อนเนื่องจากไฟดับ จึงตื่นขึ้นมาแล้วเห็นไฟรถส่องอยู่หน้าบ้านนึกว่ารถการไฟฟ้ามาซ่อมไฟ จึงเดินออกมาดูพร้อมกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ โดยสุนัขได้เห็นคนร้ายจึงเห่าเสียงดัง ตนเองจึงดุสุนัขไม่ให้เห่าเสียงดัง ก่อนเข้าไปดูที่เครื่องซักผ้า เห็นคนร้ายรีบวิ่งขึ้นรถยนต์กระบะก่อนขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนเองคิดว่าเป็นลูกค้ามาซักผ้า จึงกลับไปนอนต่อ และตื่นเช้ามาเห็นว่าตู้เงินเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญถูกคนร้ายงัดเอาเงินไปแล้ว โดยประมาณกว่าสามพันบาท จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายแก๊งเดียวกันที่ขี่รถจักรยานยนต์มาในรอบแรก ซึ่งรอบหลังกล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพได้เนื่องจากไฟฟ้าดับ และในช่วงเช้าผู้เสียหายต้องพาครอบครัวไปต่างจังหวัด จึงไม่ได้อยู่ให้รายละเอียด

          หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบเจ้าของร้านได้นำแม่กุญแจอันใหม่มาเปลี่ยนใส่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับซื้อโซ่มาล็อกป้องกันเหตุดังกล่าวด้วย จึงได้สอบถามเหตุการณ์ นางสาวสมควร รังแก้ว อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เปิดเผยเรื่องราวและชี้จุดเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวได้ทราบข้อมูลแทน นายอรัญ ชูคันหอม ผู้เสียหายที่เดินทางไปต่างจังหวัดด้วย ซึ่งก็เชื่อว่าคนร้ายที่มาทั้งสองรอบน่าจะเป็นคนร้ายแก๊งเดียวกันด้วย

Subscribe
Advertisement