ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับเรื่องจากทุกข์จากนายชู ประกอบผล อายุ 55 ปี ว่าตนเองได้ปลูกต้นกัญชา จำนวน 1 ต้น ความสูงไม่เกิน 50 เซนติเมตร ไว้ที่บริเวณหน้าห้องเช่า เลขที่ 66/10 ม.12 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ฝั่งตรงข้ามอนามัยบ้านห้วยกุ ปรากฎว่าในขณะที่ตนเองออกไปทำงาน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ บุกเข้ามาที่ห้องพัก ซึ่งมีนางพรพิมล ประกอบผล อายุ 56 ปี ภรรยาตนเองอยู่ห้อง และถูกจับกุมนำตัวไปที่ สภ.ศรีราชา พร้อมด้วยต้นกัญชาไปด้วย
นายชูเล่าว่า ในขณะเกิดเหตุภรรยาตนเองได้โทรศัพท์มาบอกว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมต้นกัญชาที่ตนเองปลูกไว้ ตนเองเมื่อทราบเรื่อง ก็ได้รับเดินทางกลับมาที่บ้าน ปรากฎว่าไม่พบเจ้าหน้าที่ จึงได้ติดต่อกลับไปหาภรรยา ซึ่งก็พบว่าภรรยาตนเองถูกจับไปแล้ว ตนเองขอร้องเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม ระบุแต่เพียงว่าให้ไปประกันที่ สภ.ศรีราชา
ตนเองก็ต้องวิ่งไปหากู้หนี้ยืมสินมาเพื่อประกันตัว ส่วนภรรยาตนเองก็ต้องนอนห้องขัง 1 คืน นายชู กล่าวต่ออึกว่า แค่ลำพังหาเงินเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ ก็แทบจะไม่มีเงินแล้ว กลับต้องมาไปหากู้หนี้ยืมสินมาอีก เพียงเพราะต้นกัญชา 1 ต้นเอง
ขณะที่นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี เขตอำเภอศรีราชา รับทราบข่าวจึงได้ลงพื้นที่พบนายชู ให้กำลังใจ นำถุงยังชีพมามอบให้ พร้อมช่วยเหลือในเรื่องคดี เนื่องจากไม่ได้ส่อไปในทางการค้า เป็นเพียงเพื่อการบำบัดรักษาโรคและนำมาใส่ปรุงอาหาร
โดยนายขวัญเลิศกล่าวว่า เราเข้าใจดีว่าในช่วงรอยต่อระหว่างกฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่ ความสับสน ทั้งจากผู้บังคับใช้กฎหมายและประชาชน อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนและให้สมแก่เจตนารมณ์ของกฎหมาย จึงจะได้เสนอให้ทางตำรวจได้กรุณาช่วยสร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานถึงความละเอียดอ่อนในช่วงเวลานี้ เพื่อไม่ให้มีการจับกุมชาวบ้าน ที่จะถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งรังแกประชาชนได้
Advertisement
