สมาคมการท่องเที่ยวและบริการศรีราชา-เกาะสีชัง จับมือภาครัฐ สร้างอีเว้นท์-ทำคอนเทนต์ ปลุกกระแสเทศกาลงานประเพณีสงกรานต์-วันไหล – กองข้าว เพื่อผลักดันเมืองศรีราชาขึ้นแท่นเมืองน่าเที่ยวอย่างยั่งยืน

เมื่อเร็วๆ นี้ (27 มี.ค.67) มีการจัดประชุมสมาคมด้านการท่องเที่ยวและบริการศรีราชา-เกาะสีชัง ณ ห้องประชุมมรกตสุทธิ์ ชั้น 5 Balcony Seaside อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีนายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ประธานที่ปรึกษาสมาคมท่องเที่ยวและบริการศรีราชา-เกาะสีชัง เป็นประธานในการประชุมในครั้งนี้ โดยมี ดร.วิริยพล คณาสิริวัฒน์ ที่ปรึกษาสมาคมท่องเที่ยวและบริการศรีราชา-เกาะสีชัง ทพญ.ณัฏฐ์ศรัย ชัยจินดารัตน์ นายกสมาคมท่องเที่ยวและบริการศรีราชา-เกาะสีชัง พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหาร และสมาชิก เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยการประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา ได้เข้าร่วมประชุมและร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองศรีราชา รวมถึงคุณอุไร มุกประดับทอง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพัทยา คุณอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ อ.เกตุวิภา จรรยาศักดิ์ สภาองค์การนายจ้างภาคตะวันออก คุณอุทุมพร ทูลจินดา นักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษ นายณัฏฐ์ธน สารทจีนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรม และรองประธานสภาหอการค้า จ.ชลบุรี ฯลฯ มาร่วมให้ความรู้ในด้านต่างๆ แก่ผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ประธานที่ปรึกษาสมาคมท่องเที่ยวและบริการศรีราชา-เกาะสีชังฯ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุม สมาคมท่องเที่ยวและบริการศรีราชา เกาะสีชัง ซึ่งคณะกรรมการของทางสมาคมฯ ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าของโรงแรม เจ้าของร้านอาหาร และ SME ที่ทำธุรกิจด้านการบริการและการท่องเที่ยว สิ่งหนึ่งที่เราพยายามทำกัน ช่วยกันระดมความคิดร่วมกัน เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เมืองศรีราชา ซึ่งเป็นเมืองรองของการท่องเที่ยว ให้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ อยากที่จะมาสัมผัส มาพักผ่อน และมาใช้บริการ ซึ่งในขณะนี้ในส่วนของภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว 5 ดาว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศรีราชา ห้างสรรพสินค้าโรบินสันศรีราชา และศูนย์การค้าแปซิฟิคพาร์ค ศรีราชา ซึ่งในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาได้มีการทำกิจกรรมร่วมกันมา จะสังเกตได้ว่า มีนักลงทุน นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ต่างให้ความสนใจเมืองศรีราชามากยิ่งขึ้น และจะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะที่บางแสน และ พัทยา ในขณะนี้มีนักท่องเที่ยวที่หนาแน่นมาก และกลุ่มคนที่มาท่องเที่ยวในพื้นที่บางแสน และพัทยา ได้มีโอกาสเข้ามาท่องเที่ยวที่เมืองศรีราชา ซึ่งทางเมืองศรีราชาได้รับคำชื่นชมจากนักท่องเที่ยวว่า ศรีราชาเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก มีธรรมชาติที่สวยงาม

ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่ภาคเอกชนต้องรวมตัวกัน และสร้างจุดเอกลักษณ์ จุดที่น่าสนใจของเมือง และสื่อสารประชาสัมพันธ์ออกไป ซึ่งภาครัฐก็ต้องให้การสนับสนุนเช่นกัน อาทิ ททท. ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด อำเภอ เทศบาล อบต. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต้องเข้ามาช่วย โดยเฉพาะในการประชุมของสมาคมท่องเที่ยวฯของเราในครั้งนี้ นายอำเภอศรีราชาได้เข้ามาร่วมประชุมด้วยเช่นกัน ซึ่งท่านก็ได้ให้ข้อคิด ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการดำเนินงานกับพวกเรา โดยเฉพาะการจัดทำโครงการ 130 ปี เมืองศรีราชา ซึ่งถึงขั้นต้องไปทำการก่อสร้างหอศิลป์ หอประวัติศาสต์ของเมืองศรีราชาขึ้นมา เพื่อให้นักท่องเที่ยว นักลงทุน ได้เข้ามาศึกษา ได้เข้ามาเรียนรู้ถึงความเป็นมาที่น่าสนใจในด้านต่างๆของเมืองศรีราชา และนอกจากนั้น ทางนายกสมาคมท่องเที่ยวได้ไปรับธงในการเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดนางสาวไทยระดับประเทศ ในช่วงต้นปี 2568 ซึ่งการเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมการประกวดนางสาวไทยในระดับประเทศครั้งนี้นั้น เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทางสมาคมท่องเที่ยวฯของเราเป็นผู้ดำเนินการ รวมถึงกิจกรรม Sriracha Festival และงานประเพณีสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงงานพัฒนาของเมืองศรีราชา ที่จะมีทำแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 3 – 4 แห่ง เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ศรีราชา ดังนั้นภาคเอกชนต่างมีความพร้อมอย่างมาก เมื่อนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา และภาคเอกชนมีความพร้อม จุดนี้แหละจะเป็นความยั่งยืน ความสำเร็จ จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากและนักท่องเที่ยวก็จะคิดถึงเรา และกลับมาเที่ยวที่บ้านเราอีก นายสุรชัย กล่าวในที่สุด

นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา กล่าวว่า การพัฒนาการท่องเที่ยวและการบริการในอำเภอศรีราชา โดยมีสมาคมด้านการท่องเที่ยวและบริการศรีราชา-เกาะสีชัง ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อให้เมืองศรีราชา มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว สำหรับเมืองศรีราชามีศักยภาพด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวและบริการ นอกจากนั้นยังมีมิติด้านอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย โดยด้านการท่องเที่ยวและบริการนั้นสามารถดูดเม็ดเงินให้กับภาคธุรกิจ ซึ่งการพัฒนาดังกล่าว จะต้องมีการคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบ เช่น เมืองศรีราชาจะมีอายุครบรอบ 130 ปี โดยจะทำอย่างไรจะนำมาซึ่งอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ของเมืองศรีราชา มาสร้างคอนเทนต์ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้รับทราบ ให้เกิดภาพด้านอีเว้นท์ โดยทั้งคอนเทนต์และอีเว้นท์ จะต้องเชื่อมโยงกัน จนกลายเป็นซอฟพาวเวอร์ที่มีพลัง และสร้างอัตลักษณ์ให้กับเมืองศรีราชา จนกลายเป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว

“สำหรับแนวทางด้านอีเว้นท์ จะต้องเกิดความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ในช่วงเดือนเมษายนนี้ คือ เทศกาลงานสงกรานต์ ที่ถือว่าเป็นซอฟพาวเวอร์ หรือเป็นมรดกโลก ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และจังหวัดชลบุรีถือว่าจัดงานประเพณีสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นเมืองศรีราชา สามารถนำมาเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะวันไหล ที่จังหวัดอื่น ๆ ไม่มี นอกจากนั้นประเพณีกองข้าวอำเภอศรีราชา ซึ่งก็เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่อีกประเพณีหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวที่เป็นคอนเทนต์ที่จะเกิดขึ้น โดยหยิบยกคอนเทนต์ดังกล่าว สร้างเป็นอีเว้นท์ เล่าเรื่องราวต่างๆ จนกลายเป็นซอฟพาวเวอร์ ดังนั้นในปีนี้การจัดงานดังกล่าวให้อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย ในปีนี้จะเป็นการครบครบ 130 ปี เมืองศรีราชา โดยจะทำอย่างไรให้การครบรอบ 130 ปี ในปีนี้มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยจะต้องนำเสนอเรื่องราวต่างๆให้ ประชาชนในเมืองศรีราชา ทั้งอดีตและปัจจุบันให้รับรู้รับทราบถึงความเป็นมา เช่น ด้านการท่องเที่ยว ,การทำมาหากิน ,ด้านอุตสาหกรรม โดยในปีนี้จะต้องร่วมมือกันในทุกๆฝ่ายผลักดันให้เมืองศรีราชา เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนกลายเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City ) ต่อไป” นายนพรัตน์ กล่าว

Subscribe
Advertisement