“บังมีน” หนึ่งในทีมอ้างเป็นฝ่ายปกครอง ทำร้าย-ปล้นทรัพย์ ชาวบ้าน ดอดเข้ามอบตัวกับตำรวจ ขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยันไม่ได้ทำร้าย แถมเป็นคนห้ามเพื่อนๆ ด้วยซ้ำ

         จากกรณีเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นายประสิทธิ์ สุราประเสริฐ อายุ 37 ปี พร้อมด้วย น.ส.วรรณทิภา สุขสำราญ อายุ 31 ปี ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชน ว่าเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บุกเข้าไปที่บ้านพักเลขที่ 42/62 ภายในซอยป่าช้าจีน ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แล้วทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนมีอาการถ่ายเป็นเลือด ก่อนจะปล้นทรัพย์เป็นเงินสดกว่า 8,000 บาท แล้วพากันหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ พ.ต.ท.ณัฏพล แก้วจันทร์ฉาย สว.สอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี

        ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมาควบคุมแนวทางการสืบสวนด้วยตนเอง จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 6 คน และเป็นผู้ใด จึงได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเข้าไปควบคุมตัวนายรุ่งโรจน์
หรือโบ้ (ขอสงวนนามสกุล) และนายปิยะ หรือสอง (ขอสงวนนามสกุล) ได้ที่บ้านพัก ในความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยา และในวันเดียวกันได้ยื่นคำร้องขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกสามคนที่ได้ร่วมกันกระทำความผิด อยู่ในระหว่างการติดตามจับกุม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

        ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นายอติชาติ สุคนธมาลี 26 ปี หรือบังมีน ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจสืบสวน สภ.หนองปรือจ.ชลบุรี โดยขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยันในวันเกิดเหตุอยู่ด้วย แต่ไม่ได้ทำร้าย แถมเป็นคนห้ามเพื่อนๆ ด้วยซ้ำ

        ด้าน น.ส.จันทร์ฉาย ปรางนวล อายุ 26 ปี ภรรยาของบังมีน ให้การกับสื่อมวลชนว่า บังมีนบอกว่าหลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจกับข่าวที่ออกไป จึงหลบไปอยู่ที่บ้านญาติที่ต่างจังหวัด และในวันนี้จึงขอติดต่อเข้ามามอบตัวเพื่อสู้คดี โดยขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา วอนสังคมให้ความเป็นธรรมกับสามีด้วย

         อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บังมีนอยู่ในระหว่างถูกนำตัวไปสอบสวนถึงข้อเท็จจริงในวันเกิดเหตุ โดยทีมสืบสวนได้ออกมากล่าวสั้นๆ กับสื่อมวลชนว่า ขอทำงานก่อนในขั้นการสอบสวนก่อน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย