“ปุ้ยพัทยา” มือปืนยิงถล่มรถหนุ่มไทยออยล์ ดอดเข้ามอบตัวก่อนประกันตัวออกไปสู้คดี ส่วนปมของสาเหตุมาจากเรื่องเขม่น-ท้าทายกัน

        จากกรณีที่เกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่กันหน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในช่วงเช้าของวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายธีรพันธ์ มุลมา อายุ 34 ปี พนักงานบริษัท ไทยออยล์ ว่าได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่รถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อ โตโยต้า ยาริส สีขาว หมาย เลขทะเบียน 2-กย 8731 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายยับเยิน ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุงแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในความวิตกกังวล เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

         ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30น. วันนี้ (5 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี ได้เข้ามาเก็บหลักฐานจากรถยนต์ที่ถูกก่อเหตุถูกอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ที่ฝั่งด้านคนขับจนพรุนทั้งคันเพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี

         ด้าน พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่าขณะนี้ นายขวัญชัย หรือปุ้ยพัทยา ไพศาลธนวัฒน์ อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามามอบตัวแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นวันก่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพาไปตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองยาว ขนาด 12 ยี่ห้อฮัสซัน สีดำ หมายเลยทะเบียน กท ๕๙๘๐๕๖๑๒ ที่บ้านพัก ก่อนจะแจ้งข้อหากล่าวหาว่า ทำให้เสียทรัพย์, ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการขู่เข็ญ ,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และพกพายิงอาวุธปืนไปในเมือง-หมู่บ้าน-ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร ซึ่งในเบื้องต้น นายขวัญชัย หรือ ปุ้ยพัทยา ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนใช้เงินสดจำนวน 1 แสนบาท ประกันตัวออกไปสู้คดี

         ส่วนปมของสาเหตุนั้นมาจากเรื่องที่ผู้เสียหายเกิดการเขม่นท้าทายกัน โดยก่อนเกิดเหตุ นายธีรพันธ์ มุลมา อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย ได้ทะเลาะกันกับแฟนสาวและได้เข้าไปง้อขอคืนดีในที่ทำงานของแฟนสาว และเกิดการทะเลาะโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ซึ่งในที่สถานที่ดังกล่าวได้มีนายขวัญชัย หรือปุ้ยพัทยา นั่งสังสรรค์อยู่ด้วย จึงเข้ามาห้ามปรามจนเกิดการโต้เถียงและเขม่นท้าทายกันขึ้น

         จากนั้นนายธีรพันธ์ ผู้เสียหาย ได้กลับออกไป และกลับเข้ามาตามง้อแฟนสาวอีกครั้ง นายขวัญชัย หรือปุ้ยพัทยา จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองส่วนตัวยิงข่มขู่ไปที่รถ ซึ่งถือเป็นเรื่องโชคดีที่นายธีรพันธ์วิ่งหลบหนีออกมาได้ทัน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว