เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบริเวณโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถนนพัทยา- นาเกลือ ปากซอยนาเกลือ 18/2 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายในซอย พบกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารถพ่วง จำนวนกว่า 10 คัน จอดขายของให้กับกลุ่มแรงงานก่อสร้างของโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าดังกล่าว
น.ส.เสาวลักษณ์ ยาโย อายุ 48 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในเมืองพัทยา เปิดเผยโดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา เรียกเก็บเงินทุกเดือน เดือนละ 300 บาท แต่ตนเองไม่ยอมเสียเพราะตนเองเพิ่งมาขายในเมืองพัทยาได้ไม่กี่วันเอง เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยาจึงทำการเรียกเก็บบัตรประชาชนตนไป โดยให้ตนไปทำการเสียค่าปรับที่เมืองพัทยา จำนวน 2 พันบาท ตนเองรู้จักกับเจ้าหน้าที่เทศกิจอีกคนโดยพูดคุยกันให้ตนเสียเป็นรายเดือน เดือนละ 300 บาท ตนเองจึงยอมในข้อตกลง จึงได้บัตรประชาชนคืนโดยไม่ได้เสียค่าปรับ โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกใบบันทึกถ้อยคำของผู้ต้องหาตามพระราชบัญญติฯ ให้ตน แต่ที่ผิดสังเกตคือไม่มีการลงเลขที่แต่อย่างใด
อีกรายเป็นแม่ค้าขายผักสด น.ส.เกษร พอไข อายุ 52 ปี แม่ค้ารถพ่วงขายผักสด โดยให้สัมภาษณ์ว่าพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าขายอะไร ที่มาจอดบริเวณนี้ ต้องเสียเป็นรายเดือนทุกคนทุกคัน เดือนละ 300 บาท ไม่อยากจะไปเสียค่าปรับที่เมืองพัทยาในราคา 2 พันบาท ก็ต้องยอมทุกคัน รอบเช้าเวลาประมาณ 08.00 น. เป็นต้นไปจะมีเทศกิจเมืองพัทยาขับรถยนต์ของเมืองพัทยา มีไฟไซเรนติดบนหลังคา ขับมาจอดปากซอย จากนั้นก็จะเรียกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทีละคนเข้าไปในรถ ก่อนจะให้จ่ายเงินคนละ 300 บาท
รอบบ่ายก็จะมีมาอีกคน โดยเสียคันละ 100 บาทต่อเดือน ใครมาขายใหม่ก็จะถูกเรียกเก็บบัตรประชาชนก่อนจะให้ไปเเสียค่าปรับที่เมืองพัทยาก่อนจะพูดคุยกันเป็นรายเดือน พ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าขายลอตเตอรี่ ก็ต้องจ่าย หากไม่จ่ายก็จะถูกก่อกวนทุกวันจากเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา ตนเองและแม่ค้าร้านต่างๆ จึงได้รวมตัวกันร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวให้ช่วยขอความอนุเคราะห์ผ่อนผันกับนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาให้ผ่อนผันกับกลุ่มพ่อด้าแม่ค้าด้วย พร้อมทั้งขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยาที่ทำตัวเรียกเก็บเงินจากกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าด้วย
Advertisement
