ล่าแก๊งทาสยานรก ไม่เกรงกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ออกตระเวนขโมยองค์พระพรหมทั่วอำเภอบางละมุง ตำรวจตามจับได้ 2 หนีอีก 2

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 6 เม.ย.67  พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง , พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง.ผกก.สส. ,พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ลงพื้นที่บ้านยังเพิงพักชั่วคราว หลังวัดกระทิงลาย หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเชิญตัวนางสาววราภรณ์(สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี และ นายธันวา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี มาทำการสอบสวน หลังตำรวจได้หลักฐานสำคัญ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ว่าทั้ง 2 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับก่อเหตุขโมยองค์พระพรหม 4 หน้า ที่ตั้งประดิษฐานตามศาลหน้าสถานที่สำคัญ ในพื้นที่ของอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องมาจาก ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – วันที่ 3 เมษายน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายหลายราย อาทิ คลังสินค้ายี่ห้อดัง ( อดิดาส-พูม่า ) , บริษัทรักษาความปลอดภัย , บริษัทออกแบบสิ่ง-รับเหมาก่อสร้าง , ร้านค้า , โรงงาน รวม 6 ราย เข้าแจ้ง ว่า รูปหล่อทองเหลืององค์พระพรหม ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ในศาลพระพรหม หน้าสำนักงาน ได้หายไปอย่างลึกลับ โดยภาพกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน มีทั้งผู้ชาย และ ผู้หญิง ใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วงข้าง และรถจักรยานยนต์ ใช้ในการก่อเหตุ

ต่อมาชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าว และ ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปยังเพิงพักชั่วคราว หลังวัดกระทิงลาย จึงนำกำลังไปควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยทันที ก่อนจะสามารถควบคุมตัว นางสาววราภรณ์ อายุ 34 ปี ชาว จ.ลำปาง และนายธันวา อายุ 34 ปี ชาว จ.ลพบุรี เบื้องต้น ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่า ปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้ง 2 คน

ตำรวจสอบสวน นายธันวา ให้การรับสารภาพว่า นายหำ อายุ 35 ปี สามีของ นางสาววราภรณ์ เป็นหัวโจกในเรื่องการหายไปขององค์พระพรหมในสถานที่ต่างๆ โดยเป็นคนวางแผนและนำทีมไปก่อเหตุขโมยองค์พระพรหม ซึ่งคนที่ไปก่อเหตุ จะมีนายหำ ( ยังหลบหนีอยู่ ) , นายเทพ ( ยังหลบหนี ) ซึ่งนายธันวาจะใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วง 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ออกตระเวนหาเหยื่อตามที่สถานต่างๆ พอสบโอกาส ก็จะยกองค์พระพรหม ซึ่งตั้งอยู่ในศาลออกมาทั้งองค์ จากนั้นจะนำไปเผา-ลนไฟให้ร้อนจัด จนทองเหลืองร้อนเป็นสีแดง จากนั้นจะใช้ขวานทุบจนองค์แตกเป็นชิ้นๆ แล้วรอให้เย็น เก็บใส่กระสอบ นำไปขายร้านของเก่าได้กิโลกรัมละ 200 บาท พอได้เงินมาจะนำมาแบ่งกัน ตกคนละพันกว่าบาท และซื้อยาไอซ์ เสพ

ต่อมา ตำรวจมีการคุมตัว นายธันวา ไปยึดของกลาง โดยสามารถยึดขวานเหล็ก ที่ใช้ในการทุบ องค์พระพรหม จำนวน 1 ด้าม รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ 1 คัน และ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีแดง-ดำ 1 คัน และตามไปยึดเศษองค์พระพรหม ซึ่งแผ่นทองเหลือง ถูกทุบแตกเป็นชิ้นๆ ในร้านรับซื้อของเก่า ได้จำนวนหนึ่ง โดยตำรวจ พยายามสอบถามนายธันวาว่าไม่กลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเล่นงานหรือ เจ้าตัวตอบว่าส่วนใหญ่คนที่ยกและทุบองค์พระพรหม คือ นายหำ ซึ่งนายหำจะบอกว่าการนำองค์พรหมไปเผา หรือ ลนไฟจนองค์พรหมเป็นสีแดง ถือว่าเป็นการทำลายพลังขององค์พระพรหม แล้วจะทำให้ทุบแตกอย่างง่ายดาย แต่ก็มีเรื่องประหลาดอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่ไปก่อเหตุที่บริษัทฯออกแบบและรับเหมาก่อเหตุที่ย่านซอยหนองกระบอก ใกล้กับข้างทางรถไฟ ตอนแรกจะไปก่อเหตุยกองค์พระพิฆเนศ สามคนพยายามช่วยกันยก ยกเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น ใช้ขวานทุบก็ทุบไม่แตก จึงเปลี่ยนแผนไปยกองค์พระพรหม

พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น ได้จับกุม นางสาววราภรณ์ ยมนา และ นายธันวา ในข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( ยาไอซ์ ) โดยผิดกฎหมาย ส่วนคดีขโมยพระองค์พระพรหม อยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐาน ในการขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับ รวมถึงตัวการใหญ่ คือ นายหำ และลูกสมุน คือ นายเทพ ซึ่งยังหลบหนีอยู่ ส่วนในพื้นที่ สภ.บางละมุง มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ 6 ราย และยังไม่มาแจ้งความอีกหลายราย นอกจากนี้ ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา และ สภ.หนองปรือ มีการแจ้งความในลักษณะเดียวกันอีกหลายองค์ เบื้องต้น มี องค์พระพรหม ของห้างแห่งหนึ่ง ( โลตัส ) , แฟลตตำรวจ สภ.เมืองพัทยา , ตลาดสดย่านเทพประสิทธิ์ ( รัตนากร ) แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองพัทยา และอยู่ในระหว่างการประสาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Subscribe
Advertisement