ตำรวจพัทยา สนธิกำลัง ปคม. ท่องเที่ยว บุกจับผัวเมียวัยรุ่น อุ้มลูกพิการเร่ขายของหามรุ่งหามค่ำ

        เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ตรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกไปจับกุมตัวนายเอ(นามสมมุติ) อายุ 20 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ได้ที่บ้านพักภายในซอยหนองเกตุใหญ่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
        สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้ที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวและบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มบุคคลพาเด็กเร่ขายของและขอทานในพื้นที่พัทยา พบว่ากลุ่มบุคคลซึ่งได้ทำการในลักษณะดังกล่าว โดยในช่วงกลางคืนของทุกวัน จะมีผู้ชายอายุประมาณ 20 ปี ไม่ทราบชื่อสกุลและสัญชาติ และผู้หญิง อายุประมาณ 18 ปี ไม่ทราบชื่อสกุลและสัญชาติ เดินอุ้มเด็กเล็กอายุประมาณ 1-2 ปี ซึ่งเด็กมีอาการป่วยพิการเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ออกมาเร่ขายสินค้าตามสถานบริการในพื้นที่พัทยา โดยผู้ชายคนดังกล่าวจะเดินอุ้มเด็กผู้ชาย พร้อมถือตะกร้าสินค้าสำหรับขายให้กับนักท่องเที่ยว โดยอาศัยอาการป่วยของเด็ก เพื่อให้ลูกค้าที่พบเห็นเกิดความเวทนาสงสาร และตกลงใจซื้อสินค้านั้น อันถือเป็นการใช้เด็กเป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
          ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรีเพื่อขออนุมัติให้ออกหมายจับ ซึ่งต้องหาว่าได้กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอมหรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กเป็นขอทาน เด็กเร่ร่อน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือการกระทำผิดหรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก” ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรีอนุมัติหมายจับที่ จ.24/2566 และ จ.25/2566 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ตามลำดับ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรีเพื่อขออนุมัติให้ออกหมายค้นที่พักอาศัยของบุคคลตามหมายจับดังกล่าว ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรีอนุมัติหมายค้นตามขอ ตามหมายค้นที่ ค.2/2566 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2566
        สอบถามนายเอ (นามสมมุติ) ได้เปิดเผยว่า เด็กคนนี้เป็นลูกของตนทั้งสอง ซึ่งที่จะต้องพาลูกออกไปขายของตั่งแต่ช่วงบ่ายถึงกลางดึกนั้น ก็เพราะว่าร่างกายแฟนสาวนั้นไม่แข็งแรง ไม่อยากปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว จึงต้องพากันออกไปช่วยกันขายลูกอมตามสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว

Subscribe
Advertisement