เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2566 หน่วยบรรเทาสาธารณภัยทางบกเมืองพัทยารับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดที่บ้านพวงทอง เลขที่ 245/14-15 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ รวมถึงรถน้ำจากเมืองพัทยากว่า 10 คัน รีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นปลูกสร้างติดกันเรียงรายหลัง ลักษณะคล้ายปล่อยทิ้งร้างแล้วมีคนเข้ามาจับจองอาศัยอยู่ ซึ่งบางรายอ้างว่าเช่าตรงจากเจ้าของตัวจริง โดยพบเปลวไฟกำลังลุกไหม้โหมอย่างหนักจากบ้านต้นเพลิง มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งคละคลุ้งไปทั่วท้องฟ้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้รถน้ำเร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังหลังข้างเคียง แต่บ้านต้นเพลิงนั้นมีขยะ เศษของเก่า เป็นไม้ และพลาสติกเป็นจำนวนมาก วางกองสูงท่วมหัวไว้ในตัวบ้านทั้ง 3 ชั้น รวมไปถึงด้านข้างของตัวบ้าน มองด้วยตาเปล่าคาดว่าปริมาณขยะเหล่านี้มีน้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 2 ตัน ซึ่งเป็นเชื่อเพลิงชั้นดี อุปสรรคในการดับเพลิงของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันพบว่าเพลิงลุกลามไปยังบ้านติดกัน ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงเกิดความกลัว พากันช่วยยกสิ่งของมีค่าออกจากตัวบ้าน แล้วพากันอพยพหนีตายกันอย่างอลหม่าน ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงลำเลียงรถน้ำเข้าฉีดสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้กองขยะในตัวบ้านอย่างไม่ขาดสาย แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้
สอบถามนางอรวรรณ ชอุ่มกฤษ อายุ 59 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี เล่าทั้งน้ำตาว่าบ้านหลังนี้ตนเองมาอาศัยอยู่ โดยที่ไม่ได้เช่าต่อจากเจ้าของ ซึ่งของเก่าและขยะเหล่านี้มีคนเอามาให้ตนเองก็เก็บมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 จึงมีปริมาณเยอะ และจะทยอยขายไปบ้างส่วนเพื่อนำเงินมาจ่ายดอกเงินกู้นอกระบบ เป็นดอกลอยวันละ 800 บาท ส่วนเพลิงที่ไหม้เกิดจากสาเหตุใดตนเองก็ไม่รู้ ตนเองเห็นกลุ่มควันโชยขึ้นมาทางหน้าต่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร กระทั่งเกิดแสงเพลิงจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน หลังจะหยิบทรัพย์สินมีค่า และวุฒิการศึกษาของลูก แต่ก็ไม่ทันเพราะไฟลามไหม้เสียหายไปหมดแล้ว ก่อนจะรีบหนีเอาตัวรอดจากกองเพลิงออกมา จนได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกตามร่างกายเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้
อย่างไรก็ตามเพลิงยังคงลุกไหม้โดยไม่มีทีท่าจะสงบลง เนื่องจากขยะที่เป็นเชื้อเพลิงกองทับถมกันเป็นจำนวนมากจึงทำได้เพียงฉีดเลี้ยงไว้ไม่ให้ลุกลามเป็นบริเวณกว้างกว่านี้ ส่วนประชาชนยังคงทยอยขนของและอพยพออกไปอยู่ในบริเวณที่ปลอดภัย
Advertisement
