ทริปสุดเซ็ง! นักท่องเที่ยวขอนแก่น 18 คน โดนลอยแพ หลังจองบ้านพูลวิลล่าหรูผ่านเพจออนไลน์ ถึงพัทยารู้ตัวถูกหลอกเงินมัดจำกว่า 2 หมื่นบาท อึ้งวันเดียวพบเหยื่ออีก 5 กลุ่ม ทำเสียชื่อเมืองพัทยา

          เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.อชิรญาณ์ มาลารัตน์ อายุ 27 ปี นักท่องเที่ยวจากจังหวัดขอนแก่น หลังจองบ้านพักพูลวิลล่าพัทยาผ่านเพจออนไลน์ ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงพัทยา ถึงรู้ตัวว่าเป็นเพจปลอม ถูกหลอกโอนเงินมัดจำเกือบ 2 หมื่นบาท เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา

          น.ส.อชิรญาณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.66 ตนเองและครอบครัว มีความต้องการอยากจะมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จึงหาที่พักผ่านช่องทางออนไลน์ตามเพจเฟสบุ๊คต่างๆ จนกระทั่งได้พบ เพจ ‘บ้านพักพูลวิลล่าพัทยา by Kanda’ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเพจมีผู้ติดตามเยอะ และมีความน่าเชื่อถือพอสมควร จึงติดต่อสอบถามไป จนตกลงเข้าพัก และโอนเงินมัดจำพร้อมเงินประกันบ้านรวมจำนวน 16,900 บาท เข้าบัญชี น.ส.เสาวลักษณ์ ทองสุวรรณ ธนาคาร ทีทีบี (ทหารไทยธนชาต) หลังจากโอนเงินเรียบร้อย เพจดังกล่าวได้หายไปเป็นเวลานานกว่าครึ่งวัน จึงพยายามติดต่อเบอร์โทรหน้าเพจ แต่ปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงรอจนกระทั่งได้รับการติดต่อ และได้รับข้อความการจองจากเพจดังกล่าว โดยระบุว่า เมื่อถึงบ้านพักแล้วให้โทรหาบุคคลชื่อ ป้าแมว พร้อมแนบเบอร์โทรมาด้วย
ต่อมาก่อนวันเดินทาง มีเหตุแปลกๆ ได้มีสายติดต่อเข้าในเบอร์สำรองที่ให้ไว้กับทางเพจดังกล่าว โดยมีการสอบถามเรื่องการเข้าพักบ้านพักพูลวิลล่า ทางตนเองแปลกใจว่า ทำไมถึงโทรมาเบอร์ส่วนตัวได้ แต่ได้ตอบกลับไปว่า ตนเองเป็นผู้เข้าพักเหมือนกัน ไม่ใช่ทางเจ้าของบ้าน
         จนกระทั่งวันเดินทาง 22 เม.ย.66 ครอบครัวทั้งหมด 18 คน ได้มาถึงบ้านพักพูลวิลล่าที่จองไว้ บริเวณซอยจอมเทียน 12 ชายหาดจอมเทียน และพบคนดูแลบ้านพักอยู่บริเวณหน้าบ้าน และเมื่อแจ้งว่าจองห้องพักผ่านเพจ ‘บ้านพักพูลวิลล่าพัทยา by Kanda’ ทางคนดูแลบ้าน จึงตอบกลับว่าถูกหลอกแล้ว บ้านพักเต็มแทบทุกวัน การจองต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน
          จากนั้นจึงพยายามติดต่อไปยังป้าแมว ตามเบอร์ในข้อความการจอง กลับพบว่าติดต่อไม่ได้ อีกทั้งเมื่อพยายามสอบถามทางเพจดังกล่าว กลับถูกบล็อกข้อความทันที ต่อมาตนเองและครอบครัวได้พยายามพูดคุยกับผู้ดูแลบ้านพัก กลับไม่ได้รับข้อมูลเท่าที่ควร บอกเพียงถูกโกงเท่านั้น แต่ผู้ดูแลคนเดียวกัน กลับพยายามขายบ้านพักหลังอื่นให้ในราคาที่สูงพอสมควร ซึ่งเป็นจุดที่ตนและครอบครัวพบพิรุธและเกิดความสงสัย จากนั้นตนจึงขอเบอร์ติดต่อไปยังเจ้าของบ้านตัวจริง จากการพูดคุยทราบว่า บ้านพักพูลวิลล่าแห่งนี้ ถูกนำรูปไปแอบอ้างนานมากแล้ว มีผู้เสียหายหลายราย ซึ่งทางเจ้าของไม่สามารถแก้ไข หรือทำอะไรได้ ทำให้ตนและครอบครัวเกิดความสงสัยว่า ทางเจ้าของที่โดนแอบอ้าง ทำไมทำอะไรไม่ได้ หรือไม่ทำการอย่างใดเลย แต่ที่แน่ชัดคือมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้เสียหายจากต่างจังหวัดอีก 2 ครอบครัว รออยู่บริเวณหน้าบ้านพัก และทราบว่ามีอีก 2 กลุ่ม ที่เดินทางออกไปก่อนหน้านี้ หลังพบว่าถูกหลอกจากเพจดังกล่าว ซึ่งวันเดียวมีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดตกเป็นเหยื่อจำนวน 4-5 กลุ่ม สูญเงินรายละ 6,000 – 10,000 บาท
หลังเกิดเหตุ ตนเองและครอบครัว พร้อมเหยื่อกลุ่มอื่น ได้เดินทางไป สภ.เมืองพัทยา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนกลับแนะนำให้ไปแจ้งความยังพื้นที่ภูมิลำเนา หรือที่จังหวัดขอนแก่น โดยให้เหตุผลว่า เพื่อความสะดวกในการเรียกสอบปากคำ ซึ่งตนเองคิดว่า เหตุเกิดที่พัทยา บ้านหลังเกิดเหตุก็อยู่ที่พัทยา ควรแจ้งที่พัทยา ซึ่งสุดท้ายแล้ว จึงไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด อีกทั้งจากการสืบค้นข้อมูลได้พบกลุ่มไลน์ของผู้เสียหายจากบ้านพูลวิลล่า มีผู้เสียหายในกลุ่มหลายสิบคน โดยในกลุ่มไลน์ดังกล่าว ได้มีการพูดคุยว่าไม่สามารถอะไรได้ แจ้งความไปแล้วไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จึงต้องปล่อยวางเหตุการณ์นี้ไปเฉยๆ

         น.ส.อชิรญาณ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยอีกว่า อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท่านบิ๊กโจ๊ก (พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.) หรือผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองพัทยา ให้มาช่วยจัดการแก้ไขในเรื่องนี้ เนื่องจากส่งผลให้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเมืองพัทยาเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดที่ตั้งใจจะมาที่เมืองพัทยา แต่กลับถูกโกง บางรายหาที่พักไม่ได้ ต้องเดินทางกลับ เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก อยากให้แก้ไขหรือจับกุมแก๊งมิจฉาชีพนี้โดยเร็ว เพื่อให้เมืองพัทยาน่าอยู่ น่าเที่ยว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

         ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ และขณะพบครอบครัวเหยื่อรายอื่นๆไว้ พร้อมมอบให้ผู้สื่อข่าวใช้ในการเผยแพร่อีกด้วย
Subscribe
Advertisement