หน่วยพิสูจน์หลักฐาน ร่วม ผกก.สภ.เมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หาสาเหตุเพลิงไหม้โกดังไม้ติดบ้านหรู 6 ชั้น ริมถนนพัทยาเหนือ พยานชี้ที่หน้าอาคารมีกิ่งไม้และสายไฟพันกันระโยงระยาง อาจเป็นชนวนเหตุของเพลิงไหม้ อีกทั้งมักมีบุคคลเร่ร่อนแอบมาพักอาศัยในอาคารต้นเหตุ

            จากกรณีเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 1 กันยายน 2563 เกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณริมถนนพัทยาเหนือ มีความเสียหายเป็นวงกว้าง ทั้งร้านอาหารเก่า โกดังเก็บไม้และสี รวมไปถึงยังลุกลามเข้าอาคารสูง 6 ชั้น เป็นเวลานานหลายชั่วโมง จนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเมืองพัทยาต้องขอกำลังสนับสนุนจากสถานีดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าช่วยผจญเพลิง จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 6 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จ

           ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 1 ก.ย.63 พล.ต.ต.ทนงค์ ทองประดับเพชร ผบก.ศผฐ 2 พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน 2 และพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรายละเอียดหลักฐานต่างๆ และตรวจสอบร่องรอยของเพลิงไหม้อย่างละเอียด ตั้งแต่พื้นที่ส่วนหน้าสุด ไปถึงโกดังและอาคารด้านใน พร้อมสอบปากพยานแวดล้อมผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ

            จากการสอบถาม นายสาธิต เอี่ยมสำอางค์ อายุ 43 ปี หุ้นส่วนร้าน พัทยาคาร์วอช (วรกาญกรุ๊ป 2) ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและนางนิตยา บุญช่วย ภรรยา ได้นอนหลับอยู่ในห้องพักด้านหลังร้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงดังโครมครามสนั่นจนสะดุ้งตื่น เมื่อออกจากห้องจึงพบว่ามีเพลิงไหม้ปะทุอยู่บนหลังคา จึงปลุกภรรยาให้ตื่น ก่อนช่วยกันขนของหนีไฟไหม้ ต่อมาฝ้าเพดานห้องได้ถล่มลงมา แต่โชคดีที่ตนหนีออกมาก่อนจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยที่ผ่านตนเองได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้มาดูแลอาคารร้านอาหารดังกล่าว เนื่องจากถูกทิ้งร้างมานานกว่า 2 ปี เกรงว่าจะเกิดเพลิงไหม้ เพราะตัวอาคารและทรัพย์สินด้านในส่วนใหญ่เป็นไม้ทั้งหมด รวมทั้งบริเวณเสาไฟด้านหน้า กิ่งไม้และสายไฟได้พันกันระโยงระยาง อาจจะเป็นชนวนเหตุของเพลิงไหม้ได้ อีกทั้งอาคารแห่งนี้มักมีบุคคลเร่ร่อนเข้ามาพักอาศัยอยู่บ่อยครั้ง อาจจะทำให้เกิดภัยอันตรายได้ แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุร้ายอย่างที่ตนคิด

            ด้าน พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เพลิงจากตัวอาคารร้านอาหาร ที่คาดว่าเป็นต้นเพลิง ได้ลุกลามไปยังโกดังสินค้า อาคาร 6 ชั้น และคาร์แคร์บริเวณข้างเคียง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้ามาระงับจนสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน และสอบปากคำพยานแวดล้อมและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาคารร้านอาหารเก่าที่ยังติดต่อเจ้าของไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจของกฎหมายออกหมายเรียกตามกระบวนการต่อไป