เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2563 น.ส.พรทิพย์ คมศิริแสงยิ่ง อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ตู้แลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ และดูแลร้านอาหารศาลาไทย ปากซอยนาจอมเทียน 20 นำกล้องวงจรปิดภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองนำกระเป๋าเงิน ซึ่งภายในมีทรัพย์สินมีค่าจำนวนมากใส่ไว้ในรถผิดคัน เพราะคิดว่าเป็นรถของตัวเอง ขอให้ทางเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวช่วยนำมาคืน เพราะตนเองได้ไปลงบันทึกและแจ้งความไว้แล้ว
น.ส.พรทิพย์ คมศิริแสงยิ่ง ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า ตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม 2563 ตนเองได้นำรถยนต์โตโยต้ายาริส สีขาวของตัวเองมาจอดที่หน้าร้านตัวเองในจุดที่จอดประจำ และมีรถยนต์โตโยต้ายาริสสีขาวรุ่นเดียวกันกับตัวเอง เป็นผู้ชาย 2 คน และผู้หญิง 2 คน ทั้งหมด 4 คน มาจอดด้านข้างรถของตัวเองและไม่ได้ล็อครถ พอตนออกจากร้านแลกเปลี่ยนเงินและเดินออกมาเพื่อนำกระเป๋าที่ใส่เงินสด 2 หมื่นบาท และทรัพย์สินอื่นมาใส่รถและกดรถเปิดประตูแต่ไม่ทันได้มองรถว่าเป็นรถของตัวเองหรือเปล่า และพอดีกับรถคันดังกล่าวไม่ได้ล็อค ตนจึงนำกระเป๋าไปวางที่เบาะหน้ารถ และกดล็อครถโดยไม่ได้มองดูว่าถูกคันหรือป่าว พอได้เวลาเลิกงานจึงเดินออกมาที่รถเพื่อจะกลับบ้าน แต่พอเปิดรถมาก็ตกใจกระเป๋าเงินหาย จึงรีบไปเปิดดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าตนนำกระเป๋าเงินใส่รถผิดคันไป กลายเป็นรถคันที่เป็นชายและหญิงในรูปได้เข้ามาจอดและเข้าไปทานอาหารภายในร้านที่ตนเองดูแลด้วย เบื้องต้นตนเองได้ไปลงบันทึกและแจ้งความไว้แล้ว
จึงมาร้องขอให้ทางสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่ง เพื่อให้เจ้าของรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวนำทรัพย์สินกลับมาคืนตนเองด้วย เพราะเงินสดที่ติดไปเป็นเงินของทางร้าน และเอกสารบัตรเครดิตและบัตรอื่นๆ อีกจำนวนมาก ทำให้ตนเองเดือดร้อนมาก
Advertisement