กัปตันเรือลากจูง เกิดอาการลมชักพลัดตกเรือจมทะเล

          จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือให้ชุดสมุทรดำ นำนักประดาน้ำให้ร่วมค้นหาร่างผู้พลัดตกเรือ ที่บริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาอ่าวอุดม ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยทราบว่าผู้ที่พลัดตกเรือคือ นายกฤษณะ สนธิประเสริฐ อายุ 46 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นกัปตันเรือลากจูง ที่จอดเรือเทียบกันอยู่ห่างจากสะพานปลาไปประมาณ 1 ไมล์ทะเล จึงร่วมกันค้นหาตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00 น. โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จึงยุติการค้นหา เนื่องจากคลื่นลมเริ่มแรง และน้ำทะเลกำลังหนุนขึ้นสูง
         ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 19 มีนาคม 2566 พ.ต.ท.อำพล คล้ายวงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ได้รับแจ้งจากนางนฤสา สนธิประเสริฐ อายุ 42 ปี ภรรยาผู้พลัดตกเรือ ว่าตอนนี้ได้พบร่างของผู้เสียชีวิตที่พลัดตกเรือแล้ว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ โดยทราบว่ามีทีมประดาน้ำ นำโดยนายปิยะ แก้วนุช อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต มาร่วมทำการค้นหากันในช่วงสายของวันดังกล่าว จึงพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ห่างจากจุดที่ตกเรือประมาณ 15 เมตร ก่อนนำร่างขึ้นเรือแพแบะนำร่างมาขึ้นฝั่งเพื่อตรวจสอบ
          ซึ่งจากการสอบถามภรรยาผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชัก เพิ่งไปเอายามากินได้ประมาณ 3 วัน ก่อนจะมาเกิดอาการกำเริบและพลัดตกเรือเสียชีวิตดังกล่าว
          ด้านนายปิยะ แก้วนุช อายุ 53 ปี ผู้พบร่างคนแรก เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนโทรไปบอกจึงเดินทางมาในช่วงสายของวันนี้ ก่อนลงมือค้นหาทันที โดยลงน้ำไปแล้วใช้เชือกยางประมาณ 30 เมตร ทำเป็นวงกลมแล้วล้อมพื้นที่ทำการค้นหา โดยขยับเข้าไปทีละเมตร พอถึงปลายเชือกก็พบร่างผู้เสียชีวิตพอดี โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งเมื่อคืนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการค้นหาทราบว่าทัศนวิสัยไม่ดี จึงต้องยกเลิกการค้นหาไปก่อน ซึ่งพบร่างจมอยู่บริเวณหัวโป๊ะห่างจากตัวเรือที่พลัดตกประมาณ 15 เมตร
          ด้านนางนฤสา สนธิประเสริฐ ภรรยาผู้พลัดตกเรือ เปิดเผยว่า ตอนที่สามีตกเรือนั้น ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากพาสามีมากินข้าวเสร็จ กินยา แล้วก็นอน ส่วนตนเองเดินข้ามไปเรืออีกลำหนึ่งเพื่อไปกินข้าวต่อ พอกลับมาที่เรือก็ไม่เจอแล้ว จึงมั่นใจว่าน่าจะตกเรือแน่นอน เพราะว่าไม่สามารถไปไหนได้ ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากโรคลมชักที่เป็นโรคประจำตัวของสามี เพิ่งไปรับยามาได้ประมาณ 3 วัน หลังจากหาไม่เจอจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วย ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจที่ดูแลสามีไม่ได้
          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนให้ญาตินำร่างไปดำเนินการตามประเพณีตามศาสนาต่อไป
Subscribe
Advertisement