หนุ่มกัมพูชาร้องสื่อ ถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง ไม่พอใจถูกทวงบ่อย บุกยิงถล่มบ้าน เด็กน้อยร้องระงมหวิดถูกคมกระสุน

       เมื่อเวลา 14.06 น.วันที่ 4 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายบอล คัต อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา ว่าเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายบุกถล่มยิงบ้านจนพรุน ได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 33/41 ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่แล้ว แต่ด้วยตนเองเป็นชาวกัมพูชา และผู้ก่อเหตุเป็นคนพื้นที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอ เพื่อมิให้คนร้ายกลุ่มนี้ลอยนวลได้

       โดยนายบอลเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ทำงานที่ร้านขายใบกระท่อมและน้ำกระท่อมต้ม ที่ภายในซอยชัยพฤกษ์ 2 โดยตกลงค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่เจ้าของร้านกลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าแรงตนเองและเพื่อน เมื่อทักไปทวงก็จะนัดวันนั้นวันนี้ เมื่อทวงบ่อยเข้าเจ้าของร้านกลับเกิดความไม่พอใจ เคยมาด่าทอที่หน้าบ้าน กระทั่งวันที่ 3 มกราคม เจ้าของร้านกระท่อมที่ตนเองเคยทำงานด้วยก็ได้โทรมาอาละวาดสอบถามว่าทวงทำไมหนักหนา จนรับอารมณ์จากการถูกด่าไม่ไหว จึงด่าสวนกลับไป ก่อนมีการท้าทายนัดกันออกมาเคลียร์ แต่ตนเองกับเพื่อนไม่กล้าออกไป ส่วนที่ตนเองออกจากร้านนั้นเพราะเจ้าของคิดว่าพวกตนขโมยเงิน ทั้งที่เป็นไปไม่ได้
        ต่อมาฝ่ายเจ้าของร้านได้ให้คนมาตามที่บ้าน พร้อมส่งคนมาเคลียร์โดยตกลงขอค่าแรงแค่คนละพันจะได้จบ ไม่นานกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถยนต์มาวนดูหน้าบ้าน ก่อนจะมีรถ จยย.มาจอดถล่มยิงหลายนัด ซึ่งในบ้านมีลูกสาวสองคนเป็นลูกติดแฟนสาว อายุประมาณ 4 ขวบ ทำให้เด็กๆ เกิดความตกใจสะดุ้งตื่นร้องไห้ระงม โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่แล้ว ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบตามกำแพงบ้าน กระจกหน้าบ้าน ถูกกระสุนเจาะจนเป็นรูพรุน กระจกแตก กระสุนทะลุเข้าไปในตัวบ้าน ของเล่นเด็กยังถูกกลุ่มกระสุนนับสิบนัดได้รับความเสียหาย พร้อมเก็บหลักฐานจากวิถีกระสุนปืน และปลอกกระสุน หัวกระสุนต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
         ขณะที่นายเงิน กัลยา อายุ 24 ปี ยังเล่าอีกว่าตัวเจ้าของร้านกระท่อม เคยก่อเหตุกับตนด้วยการใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ตนหลายนัด ขณะที่ตนเองนอนอยู่ภายในห้อง ไม่กล้าขยับเขยื้อน ตัวสั่นเทา โดยสาเหตุนั้นผู้ก่อเหตุอ้างว่าตนเองไปยุ่งกับแฟนสาวของเขา ซึ่งมันไม่เป็นความจริง เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์เมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ตนเองก็ไม่ได้แจ้งความ เพราะอาศัยบ้านของผู้ก่อเหตุอยู่ และคิดว่าเป็นพี่น้องกัน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเอาเงินของตนเองไปอีกหลายหมื่นบาท แต่ก็ไม่เคยได้คืน
         อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้เป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ราวกับบ้านป่าเมืองเถื่อน เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน มีบ้านเรือนประชาชนติดกันหลายหลัง รวมถึงในบ้านยังมีเด็กและผู้หญิงอยู่ด้วย ถึงจะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามเอาตัวคนผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยของประชาชนด้วย

Subscribe
Advertisement