มือยิงเพื่อนบ้าน เข้ามอบตัว สภาพถูกตีใบหน้าเละ รับสารภาพยิงเพราะโมโหถูกไม้ฟาดก่อน ด้านครอบครัวเหยื่อลั่นเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

          จากกรณี นายอัคณี หรือทองดำ สระแก้ว อายุ 30 ปี อดีตทหารเกณฑ์ เมาขาดสติ ใช้อาวุธเหตุยิงเพื่อนบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ส่วนปมเหตุเกิดจากปัญหาเรื้อรังมายาวนานหลายเดือน ตั้งแต่เรื่องซื้อขายที่ดิน และปัญหาชอบพูดตะโกนด่าสาปแช่งตามหลังกันเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุมือยิงถูกกลุ่มเหยื่อเพื่อนบ้านตะโกนด่าแช่ง “ขี่รถแบบนี้ ระวังไม่ตายดี” ก่อนจะมาเปิดศึกโต้เถียงกัน จนมือยิงต้องเข้าบ้านคว้าปืนมาไล่ยิง จนมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว หลังก่อเหตุเมียอ้อนวอนให้เข้ามอบตัว ยอมรับความเมาขาดสติ ทำไปเพราะป้องกันตัว และถูกกระหน่ำตีก่อน ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
         ล่าสุดเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง ที่บริเวณบ้านเลขที่ 141/45 หมู่ 4 ซอยเขามะกอก 8 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบว่าบ้านมือยิง และเพื่อนบ้านทั้ง 3 หลัง ปิดเงียบ โดยญาติได้ไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาล ส่วนบ้านมือยิงตำรวจได้เชิญตัว น.ส.บังอร แซ่โง้ว อายุ 48 ปี ภรรยาไปสอบปากคำที่ สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อกดดันให้สามีเข้ามอบตัว
         น.ส.มะปราง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกสาวของนายมานิต โฮกอ่อน 1 ในเพื่อนบ้านที่ถูกไล่ยิงจนวิ่งหนีตายไปล้มจนหัวไหล่หัก 2 ท่อน ดั้งจมูกแตก ทีมแพทย์ได้ทำการรักษา และอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยน้องมะปรางเล่าว่า พ่อเป็นเจ้าของที่ดินที่ผู้ก่อเหตุมาซื้อต่อไป ในราคา 980,000 บาท เมื่อประมาณกลางปี 2564 และเกิดมีปัญหาเรื่องการโอน โดยบ้านหลังที่ตกลงซื้อขายพร้อมที่ดินนั้น เป็นบ้านมือสอง ยังทำไม่เสร็จ จึงมีการโอนล่าช้า ทำให้มีการทะเลาะกันบ่อยครั้ง
โดยผู้ก่อเหตุกล่าวหาว่าพ่อของตนจะโกง จนต้องเรียกตำรวจมาเคลียร์หลายครั้ง พอเคลียร์เรื่องที่ดินจบ โอนโฉนดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากจบเรื่องตอนแรกคิดว่าต่างคนต่างอยู่ แต่กลับกลายเป็นว่ามีปัญหาหนักยิ่งกว่าเดิม โดยทุกครั้งที่ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้าน ก็จะชอบเบิ้ลเครื่องใส่ บางครั้งเวลาเมาก็ชอบตะโกนด่าแบบไม่มีเหตุผล จนมาเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น
         ด้านนายสนอง เปิดเผยว่า ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุไม่ได้ โดยกลุ่มคนเจ็บเป็นเครือญาติกันทั้งหมด ซึ่งในคืนเกิดเหตุ ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ โดยผู้ก่อเหตุก็พยายามจะวิ่งไล่ยิงตนด้วยเช่นกัน แต่ตนหนีเอาชีวิตรอดมาได้ ทั้งที่ตนพยายามเข้าไปพูดคุยและเข้าไปห้ามปราม แต่ก็พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะผู้ก่อเหตุเมาสุรามาก นอกจากนี้ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุเวลาเมาชอบใช้ความรุนแรง ปีนเกลียว ไม่เคารพผู้ใหญ่ ชอบตะโกนด่า และชอบสับไกปืนโชว์เป็นประจำ โดยตนและคนในครอบครัวพูดคุยกันแล้วว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ถึงแม้คนเจ็บทั้ง 3 คน จะพ้นขีดอันตรายแล้ว
         ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ห้องสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ นายอัคณี ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาเข้ามอบตัว โดยมีผู้ใหญ่ที่ผู้ก่อเหตุ เคารพนับถือ เป็นผู้พามามอบตัว ในสภาพร่างกายสะบักสะบอม ใบหน้าปูดบวม ศีรษะแตกหลายแห่ง ยังอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา พูดจาไม่รู้เรื่อง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ อ้างว่านำไปทิ้งไว้ ยังจำจุดที่โยนทิ้งไว้ไม่ได้ ซึ่งเป็นอาวุธปืนแบลงค์กันแบบลูกโม่ แต่ดัดแปลงให้เป็นอาวุธปืนจริง ใช้กระสุนขนาด .22 ซื้อมาจากเว็ปไซต์ ในราคา 6,000 บาท ส่วนปมเหตุที่ก่อเหตุ อ้างว่าถูกทำร้ายก่อน จึงเกิดโมโหก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่า , ยิงปืนในที่สาธารณะ , มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนจะควบคุมตัวไปกองพิสูจน์หลักฐาน เขต 2 ชลบุรี เพื่อตรวจสอบเขม่าดินปืน เพื่อประกอบสำนวนการดำเนินคดี โดยผู้สื่อข่าวพยายามสัมภาษณ์นายอัคณี แต่กลับไม่ยอมพูดอะไร และมีสีหน้าเรียบเฉย ขณะถูกควบคุมตัวไปขึ้นรถ
        ส่วนนางสาวบังอร ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่า สามีก่อเหตุจริง หลังเข้ามอบตัว สามียังไม่พูดอะไร เพียงแต่พูดว่าทำไปเพราะควบคุมสติไม่ได้ เนื่องจากถูกรุมตีก่อนในจุดที่มุมกล้องไปไม่ถึง จึงวิ่งกลับมาเอาไปปืน แล้วไปก่อเหตุดังกล่าว ถึงแม้ว่าตนและสามีจะเกิดเรื่องราวนี้ขึ้น ยังยืนยันว่าจะอาศัยอยู่ที่เดิม เพราะซื้อที่ดินผืนนี้แล้ว และมีการตกแต่งบ้านไปหลายล้านบาท อีกทั้งเมื่อช่วงที่ผ่านมา ได้ถูกกลุ่มญาติของผู้บาดเจ็บออกมายืนชี้หน้าด่า และขับไล่ให้ย้ายออกจากที่ดินนี้ไป พร้อมทั้งยืนยันว่าสิ่งที่สามีทำลงไป เพียงเพราะป้องกันตัว
Subscribe
Advertisement