บีโอไอ จับมือสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดงาน “MIRA – Subcon EEC 2022”

           ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา (NICE) จังหวัดชลบุรี นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พร้อมด้วย ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ที่ปรึกษาพิเศษด้านพัฒนาการศึกษา บุคลากรและเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย นายเกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และนายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ร่วมเปิดงาน MIRA และ Subcon EEC 2022 กับครั้งแรกในพื้นที่อีอีซี ระหว่าง 24-26 สิงหาคม 2565 ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ ผู้ประกอบการและสื่อมวลชน
             นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า “บีโอไอขานรับนโยบายรัฐบาล มุ่งสนับสนุนให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เราจึงร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดงาน MIRA และ Subcon EEC 2022 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมแห่งอาเซียน
        “Subcon EEC 2022 งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมการผลิตและการเจรจาจับคู่ธุรกิจ เป็นการจัดงาน Subcon ครั้งแรกในภูมิภาคตะวันออกที่ต่อยอดความสำเร็จจากงาน Subcon ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีที่กรุงเทพฯ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ EEC ให้มากยิ่งขึ้น โดยบีโอไอได้นำทัพผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยซึ่งเป็นฝั่งผู้ขาย ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉิรยะ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมทั้งเครื่องจักรกลการเกษตร เข้าร่วมกว่า 70 บริษัท ด้านฝั่งผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งไทยและต่างชาติที่มีจำนวนกว่า 40 บริษัทโดยเฉพาะจากภาคตะวันออก จะเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจเพื่อจัดซื้อชิ้นส่วนภายในงาน คาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจ 400 คู่ มูลค่า 1,200 ล้านบาท เชื่อมั่นผู้ผลิตไทยจะได้แสดงศักยภาพด้านการผลิต ขยายช่องทางการตลาด และเกิดการต่อยอดเทคโนโลยีต่อไป ผลักดันไทยเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐาน รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” นางสาวซ่อนกลิ่น กล่าว
          ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ที่ปรึกษาพิเศษด้านพัฒนาการศึกษา บุคลากรและเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกอพ.) กล่าวว่า “หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบันในรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกรวมถึงไทยได้รับ ผลกระทบทั้งในรูปแบบของเงินเฟ้อ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนมิติของพลังงาน ซึ่งสำหรับเศรษฐกิจไทยมีการคาดการเติบโต GDP ของไทยจะกลับสู่ภาวะปกติหรือก่อนโควิด-19 ภายในกลางปี 2566 โดยมีผลมาจากอุปสงค์ภายในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว (3.2 % ในปี 2565 และ 4.4% ในปี 2566) อย่างไรก็ดีอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่จะทำให้ไทยฟื้นตัวคือการมีเป้าหมายการลงทุนในอุตสาหกรรม S-curve และอุตสาหกรรม S-curveใหม่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ซึ่งมีหมุดหมายสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงภาคเศรษฐกิจไทยให้เท่าทันต่อทุกการเติบโตโดยมีเทคโนโลยีเป็นจุดเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม 4.0
          “สำหรับพื้นที่ EEC ของไทยประกอบไปด้วยจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 5G เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทั้งนี้เมื่อมองถึงแผนการลงทุน EEC สำหรับปี 2565-2569 ปัจจุบันมีมูลค่าการลงทุนรวม 2.2 ล้านล้านบาท ฉะนั้นแล้วโจทย์สำคัญสู่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจนี้คือการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งการเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน MIRA และ SUBCON EEC 2022 ถือเป็นหนึ่งการเติมเต็มสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนอุตสาหกรรมในไทยและผู้ประกอบการ EEC โดยเราเชื่อมั่นว่านี่คือโอกาสสำคัญของภาคเศรษฐกิจไทย”ดร.ชิต กล่าว
          ด้านนายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “อินฟอร์มา ในฐานะผู้จัดงานแสดงระดับโลก ขานรับนโยบายภาครัฐที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่อีอีซีที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงได้ร่วมกันจัดงาน MIRA และ Subcon EEC 2022 ขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต”
         “สำหรับการจัดงาน MIRA หรือ งานแสดงเทคโนโลยีด้านการบำรุงรักษาหุ่นยนต์อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ โซลูชันอุตสาหกรรมขั้นสูง ถือเป็นอีกงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในพื้นที่อีอีซี โดยมีพื้นที่จัดแสดงกว่า 5,000 ตร.ม. นำเอาผู้ประกอบการไทยในแวดวงอุตสาหกรรมมาร่วมกันนำเสนอเทคโนโลยีระดับโลกจากกว่า 100 แบรนด์ พร้อมกันนี้ยังมีโซนพิเศษจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น สถาบันไทย – เยอรมัน / ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน (SMC) / ศูนย์เทคโนโลยีอีเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) เป็นต้น และไฮไลท์ที่สำคัญ คือ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และสัมมนากว่า 20 หัวข้อสำคัญเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ การบำรุงรักษาสายการผลิตและโรงงาน ตลอดจนสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนที่จะได้รับจากทั้งบีโอไอและ สกอพ. เชื่อมั่นได้ว่าจะเป็นอีกก้าวที่สำคัญที่เสริมศักยภาพให้กับพื้นที่อีอีซีแห่งนี้”

          ซึ่งงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐและสถาบัน/องค์กร ตลอดจนอัปเดทองค์ความรู้ใหม่ๆ ในงานสัมมนาโดยผู้เชี่ยวชาญและกูรูชั้นนำของประเทศ ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เวลา 9.30-16.30 น. ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่านทาง www.mira-event.com

Subscribe
Advertisement