เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางบนชายหาดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบซากเรือสปีดโบ๊ท เกยหาดพัทยา จำนวนหลายลำสภาพเรือเสียหายยับเยิน ตัวเรือแตก หลังคาพัง เครื่องเรือยนต์เต็มไปด้วยทราย โดยผู้ประกอบการเรือ เร่งกู้ซาก เพื่อนำขึ้นฝั่ง ขณะเดียวกันยังมีเรือยอร์ชขนาดเล็ก แบบท้องร่อนคู่ (เรือท้องแคท) ถูกคลื่นซัดเข้ามาชนกับอาคารริมทะเล ย่านวอค์ลกิ้งสตรีทพัทยาใต้ ได้รับความเสียหายเช่นกัน นอกจากนี้สภาพชายหาดพัทยา และหาดจอมเทียน ทุนกันเขตเล่นน้ำ และแพโป๊ะทางเดินยื่นลงไปในทะเล ถูกคลื่นลมซัด จนเชือกขาด แตกกระจัดกระจายขึ้นมาเกยหาด เสียหายเกือบทั้งหมด
นายวัชรา วชิระนันทกุล อายุ 59 ปี 1 ในผู้ประกอบเรือที่ได้รับผลกระทบจากภายธรรมชาติดังกล่าว เล่าว่า ช่วงระหว่างเกิดเหตุ พยายามขับรถ รีบมาเก็บเรือ ซึ่งจอดทอดสมออยู่ แต่มาไม่ทัน ประกอบกับเมืองพัทยามีรถติดหนัก จึงทำให้เดินทางล้าช้า ส่วนค่าความเสียหาย ประเมินแล้ว หลายแสนบาท เพราะเสียหายทั้งตัวเรือ และเครื่องยนต์
ด้านนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ได้สั่งการให้ท่านรองนายกเมืองพัทยา และสมาชิกเมืองพัทยา เขต 4 นำทีมลงพื้นที่ทันที โดยเร่งให้มีการกู้ซากเรือสปีดโบ๊ททุกลำให้เร็วที่สุด แต่อุปสรรคคือ ช่วงนี้น้ำทะเลลง จึงยากต่อการกู้เรือที่อับปาง โดยเบื้องต้นมีเรือสปีดโบ๊ทได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติดังกล่าวจมลงถึง 4 ลำ ถูกคลื่นซัดมาเกยหาด 3 ลำ เรือยอร์ช 1 ลำ เรือหาปลา 1 ลำ นอกจากนี้ยังจัดทีมเร่งทำความสะอาดให้เร็วที่สุด เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว และมีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังภัย 24 ชม. เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุธรรมชาติซ้ำรอยอีก
Advertisement
