เรี่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้น หลังจากที่มีไกด์นำเที่ยวได้ให้ข้อมูลกับนักข่าว ถึงเรื่องความสะอาดของท่าเทียบเรือเเหลมบาลีฮายในปัจจุบันนั้นเข้าขั้นสกปรก โดยได้แจ้งว่าลูกทัวร์นั้นติติงเมืองพัทยาในเรื่องนี้ รวมถึงกลิ่นขยะที่ล้นถัง และกลิ่นเหม็นจากรถสุขาเคลื่อนที่ ที่จอดไว้บริการนักท่องเที่ยวนั้นมีน้ำไหลนองพื้นและส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ โดยผู้แจ้งไม่ประสงค์จะออกนามหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ก่อนที่ผู้สี่อข่าวจะได้เดินดูทั่วบริเวณจุดนั่งรอ ที่บริเวณที่นั่งของแต่ละจุด พบว่ามีขยะถูกวางทิ้งไว้จริง ทั้งกล่องข้าวเปล่า ถุงพลาสติก ก้นบุหรี่ ซองบุหรี่ ขวดน้ำแก้วน้ำ และขยะอื่นๆ อีกเพียบ มีให้เห็นทุกจุดที่นั่งพักรอ เห็นแล้วเป็นภาพทื่ไม่น่าชมเท่าไรนัก ซึ่งบริเวณตรงนั้นก็มีเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ชุดกิจการพิเศษ ของเมืองพัทยาประจำการอยู่ เพี่อไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว
จากการสอบถามพนักงานขายตั๋วเรือข้ามฟากและพนักงานรับถ่ายรูป รวมถึงผู้คนที่อยู่ในละเเวกนั้นได้ชี้แจงว่า ขยะบางส่วนก็มาจากนักท่องเที่ยวยามราตรีที่มานั่งดื่มกินแล้วไม่เก็บกลับ พอเช้ามาคนทำความสะอาดก็มาช้า จึงทำให้มีขยะตกค้าง บางส่วนก็มาจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มักง่าย กินเสร็จดื่มเสร็จก็วางทิ้งเลยไม่เก็บไปทิ้ง เพราะถังขยะอยู่ไกล บางคนก็มองไม่เห็นถังขยะซึ่งตั้งอยู่ข้างรถสุขา ถูกบังสนิทมองไม่เห็น ไม่รู้จะไปทิ้งที่ไหนก็วาง บางส่วนก็มาจากพนักงานและบรรดาแม่ค้าที่มาเร่ขายหมวกขายสิ่งของให้กับนักท่องเที่ยวทิ้งกันเสียเอง
ทางด้านพลเมืองดีที่มีจิตอาสาช่วยเก็บขยะบริเวณนั้นอยู่ตลอด มีความต้องการถังขยะเพิ่ม และวางให้เห็นเด่นชัด รวมทั้งขอเจ้าหน้าที่ดูแลทำความสะอาดให้บ่อยขึ้น และช่วยเก็บขยะในถังไปทิ้งในช่วงเช้ามืด ก่อนจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาท่าเทียบเรือในช่วงเช้าของทุกวัน และในเรี่องกลิ่นของรถสุขาเคลื่อนที่ ก็อยากให้เมืองพัทยากำชับเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องกลิ่นและน้ำที่ไหลลงพื้น จะได้เป็นภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองพัทยา ให้สมกับเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
