ตำรวจเร่งล่ามือปืน พร้อมกลุ่มโจ๋ ใช้อาวุธปืนยิง – ปาระเบิดปิงปอง เจ็บ 2 ราย

        จากกรณี นายศิริวัฒน์ ศักดิ์ศรี 18 ปี และ ด.ช.บี (นามสมมุติ ) อายุ 14 ปี ถูกวัยรุ่นคู่อริใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ไล่ยิงและปาระเบิดปิงปองใส่ ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 มาตามทางถนนเลียบทางรถไฟ ต.หนองปรือ อ.บางละมุงจ.ชลบุรี ส่วนสาเหตุเชื่อว่าน่ามาจากถูกวัยรุ่นคู่อริตามล้างแค้น
        ความคืบหน้าของคดี ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (19 ก.ค.66) พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.ท.สมพร สุ่มมาตย์ สว.สส. พร้อมทีมสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และหาเบาะแสของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเกิด จนไปได้กล้องวงจรปิด บริเวณซอยสุขุมวิท 21 ฝั่งถนนเลียบทางรถ ม.2 ต.นาเกลือ ต.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยพบกลุ่มชายวัยรุ่นประมาณ 10-15 คน อายุระหว่าง 15-20 ปี พร้อมรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 คัน อีกทั้งพบว่าวัยรุ่น บางคนถืออาวุธมีด คลุมผ้าโพกหัวปิดบังใบหน้า และสวมหมวกกันน็อก กำลังรวมตัว คล้ายกำลังดักรออะไรบางอย่าง จนกระทั่งมีกลุ่มคนเจ็บขี่รถจักรยานยนต์รวมกลุ่มกันมาประมาณ 10 คัน มาตามเส้นทางถนนเลียบทางรถไฟ แล้วผ่านซอยดังกล่าว กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ติดตามกลุ่มคนเจ็บออกไปทันที จนเกิดการใช้อาวุธปืนยิง และปาระเบิดปิงปอง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
        ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดมุมอื่น และไปควบคุม 8 วัยรุ่นต้องสงสัย เป็นชายทั้งหมด โดยอายุต่ำสุดเพียง 15 ปี อายุมากสุด 19 ปี มาทำการสอบปากคำในเบื้องต้น ซึ่งทั้งหมดให้การยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ไม่ได้เป็นคนใช้อาวุธปืน ส่วนสาเหตุยอมรับว่ามีการ ส่งข้อความแชทท้าทายกันก่อนหน้านี้ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุมีการโทรศัพท์ท้าทายว่าอยู่ตรงไหน จึงยกพวกไปดักรอ แต่ฝ่ายคนเจ็บปาระเบิดปิงปองใส่ก่อน จึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากัน ส่วนคนใช้อาวุธปืนยิง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง
        ด้าน พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นที่ตำรวจไปควบคุมตัวมาได้ ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน จึงต้องมีการประสานผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมสอบขยายผลเพิ่มเติม และเชิญผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเพิ่มเติมและติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดี
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดมาแล้ว 4 คัน อาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก ปืนไฟแช็ค 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง เหลือเพียงเรื่องอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป

Subscribe
Advertisement