(10 ต.ค.67) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือ สกพอ. จัดงาน Mini EEC Fair 2024 ระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม ชูแนวคิด “EEC Opportunities: Investment Solutions Towards Sustainable Locals” ตั้งเป้าดึงเม็ดเงินลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์แห่งอนาคตเพื่อ ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยได้รับเกียรติจากนายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และนายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการทีเส็บ ร่วมเปิดงาน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและระยอง ประธานหอการค้า 3 จังหวัดในพื้นที่ EEC และนักธุรกิจกว่า 2,500 คน เข้าร่วม ณ โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา จังหวัดชลบุรี
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า งาน “Mini EEC Fair 2024 เป็นเวทีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของพื้นที่ EEC ในการรองรับการลงทุน ทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายสนับสนุน และการให้สิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ที่จูงใจ มั่นใจว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนครั้งใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้พื้นที่ EEC ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักลงทุน ปัจจุบันการดึงการลงทุนจึงต้องวางแผนและรับเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย เพราะการลงทุนถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยฟื้นและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ซึ่งพื้นที่ EEC มีความพร้อมทั้งเรื่องของสิทธิประโยชน์ในรูปแบบใหม่ ข้อกฎหมาย โครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิติกส์สาธารณูปโภค และสภาพแวดล้อม ที่จะสามารถดึงเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในประเทศได้”
ด้านนายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่า Mini EEC Fair 2024 เป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอข้อมูล โอกาสทางธุรกิจ และแนวโน้มการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้กลไกไมซ์ ในการเชื่อมโยงนักลงทุนและผู้ประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ ทีเส็บ ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ EEC ผ่านการจัดงานครั้งนี้ โดยมุ่งหวังว่าจะสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังต้องการใช้ไมซ์ในการต่อยอดแสดงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรม S-Curve ซึ่งสามารถจะเป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงการค้าการลงทุน ดึงดูดผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศเข้าสู่พื้นที่ EEC ซึ่งครอบคลุม 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของพื้นที่ ได้แก่ อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมเศรษฐกิจ BCG และอุตสาหกรรมบริการ โดยคาดการณ์และตั้งเป้าหมายจากการจัดงานครั้งนี้ คาดการณ์การจับคู่ธุรกิจไม่น้อยกว่า 400 คู่ เกิดการเจรจาธุรกิจภายในงานมูลค่ามากกว่า 45 ล้านบาท และการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมหลายพันล้านบาทต่อเนื่องในอนาคต
การจัดงานในครั้งนี้มีกิจกรรมไฮไลท์มากมาย อาทิ การอำนวยความสะดวกในการจับคู่ธุรกิจและการเจรจาระหว่างนักลงทุนและผู้ประกอบการ, การสัมมนาเชิงลึกเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจใน 5 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย, การจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาในพื้นที่ EEC, การจัดกิจกรรม “Trends for Enhancing Country’s Competitiveness” เน้นการนำเสนอแนวโน้มและกลยุทธ์ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และกิจกรรมสัมมนาและเจรจาธุรกิจที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งทีเส็บมั่นใจว่า Mini EEC Fair 2024 จะเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ EEC ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน