มูลนิธิชาญยุทธ เฮงตระกูล ร่วมกับบริษัทโสภณเคเบิ้ลทีวีพัทยา เคาะประตูบ้านแจกข้าวสารอาหารแห้ง จำนวน 200 ชุด เพื่อแบ่งเบาภาระผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19

        หลังจากเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ราชกิจจานุเบกษาได้ออกประกาศปรับมาตรการยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มอีก 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และอยุธยา ได้มีการเพิ่มมาตรการ อาทิ ห้ามออกนอกบ้านเวลา 21.00 – 04.00 น. อย่างน้อย 14 วัน. ,ร้านอาหารเปิดถึง 2 ทุ่ม ห้ามนั่งกินในร้าน ให้ดำเนินการเฉพาะการนํากลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น ,ร้านสะดวกซื้อ-ตลาดสด เปิดถึง 2 ทุ่ม สำหรับร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ให้เปิดตี 4 – 2 ทุ่ม ,ห้างสรรพสินค้าเปิดถึง 2 ทุ่ม เปิดได้แค่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ยาและเวชภัณฑ์ พื้นที่จัดให้ฉีดวัคซีน และห้ามรวมกลุ่มที่มีรวมกันมากกว่า 5 คน เป็นต้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564
         ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ค.64 มูลนิธิชาญยุทธ เฮงตระกูล ร่วมกับบริษัทโสภณเคเบิลทีวีพัทยาและสื่อสารพัทยา จำกัด นำโดยนายรัฐกิจ เฮงตระกูล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทโสภณ เคเบิ้ลทีวี และสื่อสารพัทยา จำกัด นำทีมงานพนักงานบริษัทโสภณเคเบิ้ลทีวี ลงพื้นที่ตามชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในเขตอำเภอบางละมุง มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร 2 กิโลกรัม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นม ปลากระป๋อง เครื่องปรุงรส น้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย จำนวน 200 ชุด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนให้กับชาวบ้านในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังพื้นที่จังหวัดชลบุรีถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดทำให้ประชาชนต้องใช้ชีวิตยากลำบาก โดยนำไปแจกแบบเคาะประตูถึงหน้าบ้าน
          นายรัฐกิจ เฮงตระกูล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทโสภณ เคเบิ้ลทีวี และสื่อสารพัทยา จำกัด กล่าวว่า มูลนิธิชาญยุทธ เฮงตระกูล ร่วมกับบริษัทโสภณเคเบิ้ลทีวีพัทยาและสื่อสารพัทยาจำกัด อยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระของพี่น้องประชาชนในเมืองพัทยาและอำเภอบางละมุง ที่ประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จึงได้นำข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้กับพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการในชุมชนต่าง ๆ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ไปได้บ้าง แม้ไม่มากนักแต่ขอเป็นส่วนหนึ่งของชาวพัทยา บางละมุง ที่ได้แบ่งปันน้ำใจในครั้งนี้ให้กับทุกคน ทั้งนี้กิจกรรมที่ทางมูลนิธิชาญยุทธ เฮงตระกูล ร่วมกับบริษัทโสภณเคเบิลทีวีพัทยาและสื่อสารพัทยาจำกัด จะมีการดำเนินการต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลง
         อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนการ์ดอย่าตก แม้การค้าขายในช่วงนี้จะลำบากก็อยากให้ตั้งการ์ดสูงป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง หากมีวัคซีนเข้ามาก็ให้ทุกคนเข้ารับการฉีดก่อน เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันกับตัวเอง และขอให้ทุกคนข้ามผ่านสถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน
         ด้านนายคณิต ปรีดารัตน์ อายุ 61 ปี คนขับจักรยานยนต์รับจ้างตรงข้ามปากทางบ่อบำบัดน้ำเสีย ภายในซอยสยามคันทรี กล่าวว่า ขอขอบคุณที่นำข้าวสารอาหารแห้งมาแจก ช่วยเหลือคนยากจนในครั้งนี้ ลำพังรายได้จากการขับจักรยานยนต์รับจ้างในปัจจุบันนั้นไม่พอประทังชีวิต ด้วยไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ สิ่งของที่ได้รับในครั้งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าจ่ายและสามารถประทังชีวิตไปได้อีกหลายวัน

Subscribe
Advertisement