วิเคราะห์ เหรียญ xrp วันนี้ จะหลุดไปทางไหน หลังโดนแกง ทำนักลงทุนติดดอย

วิเคราะห์ เหรียญ xrp วันนี้ จะหลุดไปทางไหน หลังโดนแกง ทำนักลงทุนติดดอย

          หากกล่าวถึงเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ หลายคนคงนึกถึง Bitcoin และอีเธอเรียมเพราะมีชื่อเสียงมากที่สุด โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่สามารถทำกำไรในการเทรดเหรียญ Bitcoin อีเธอเรียมนี้ แต่ยังมีอีกเหรียญหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า Bitcoin และ Ethereum เลย นั่นคือเหรียญ xrp หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนามของ Ripple ซึ่งเหรียญ xrp นี้จะมีความแตกต่างจาก Bitcoin และ Ethereum อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจาก xrp มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลกด้วยระบบของ Ripple Net ที่สามารถจะช่วยให้สถาบันทางการเงินลดต้นทุนค่าธรรมเนียมของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศและลดเวลาในการโอนเงินข้ามประเทศได้ไวที่สุด แต่ถึงกระนั้นราคาเหรียญ xrp ก็ยังไม่มีทีท่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้หลังจากราคาดิ่งลงมาอย่าหนักเหมือนกับเหรียญ crypto currency อื่นๆ เมื่อช่วงต้นปี 2021 ซึ่งว่ากันว่าใกล้ถึงยุคฟองสบู่ของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่แล้ว
          โดยจะมาทำการ วิเคราะห์ เหรียญ xrp วันนี้ ที่ว่ากันว่ามีความสำคัญต่อสถาบันการเงิน แต่เหตุใดราคาของเหรียญกับดิ่งลงในทิศทางตรงกันข้ามกับคุณประโยชน์ที่สถาบันการเงินและบุคคลโดยทั่วไปจะได้รับ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหรียญ xrp ดิ่งลงอย่างหนักในปี 2564

          ในช่วงปี 2018 เหรียญ xrp สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้เป็นครั้งแรกหลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2015 โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 3.3 เหรียญดอลลาร์ต่อ xrp แต่หลังจากนั้นไม่นานราคากับดิ่งลง ส่งผลให้นักลงทุนที่คาดหวังว่าเหรียญ xrp จะสามารถทะยานพุ่งได้ไกลกว่า Bitcoin และ Ethereum เพราะในเรื่องของธุรกิจ Ripple สามารถสร้างประโยชน์ให้กับสถาบันทางการเงินจำนวนมากด้วยการลดต้นทุนค่าทำเนียมรายการโอนเงินระหว่างประเทศและลดเวลาการโอนเงินจากเดิมที่ทำไว้เร็วสุดอยู่ที่ 2-3 วัน ในขณะที่ที่ระบบ Ripple Net สามารถที่จะทำได้เพียง 10 วินาที ภายใต้การทำรายการมากกว่า 1,000 รายการ สอดคล้องกับการซื้อขายสิน ค้าระหว่างประเทศที่มีการแลกเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งในปี 2020 เหรียญ xrp สามารถที่จะปรับตัวกลายเป็นขาขึ้นได้อีกครั้งหนึ่งแต่ก็ยังไม่สามารถกลับคืนไปยังจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำได้และเพียงแค่หนึ่งวันให้หลังจากขึ้นปีใหม่ในปี 2021 ราคาเหรียญ xrp  กลับดิ่งลงอย่างน่าใจหาย ทำให้นักลงทุนต่างติดดอยกันไป
ตามๆ กัน เนื่องจากราคาเหรียญคริปโตเกือบทุกชนิดที่ตกลงมาทั่วโลกอย่างนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2021 ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ที่หลายคนหยุดทำการแล้วฉลองอยู่กับบ้าน สวนทางกับธุรกิจ Ripple ที่กำลังเผชิญโดยได้ทำการทำข้อตกลงกับธนาคาร HDFC Bank Limited ธนาคารใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศอินเดียและในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ Bank of America ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศอเมริกาก็จะทำการตกลงกับ Ripple นอกจากนี้ในเดือนธันวาคม บริษัทแลกเปลี่ยนดอลลาร์ของสหรัฐอย่าง Coinbase และ Binance อ้างว่ากำลังจะเกิด Spark Token โดย Flare Network Flare Airdrop และมีการแจกจ่าย Token 45 พันล้านเหรียญ ให้กับผู้ถือ  xrp  ส่งผลให้ราคา xrp ดีดขึ้นมาซึ่งมีผลเพียงแค่ในระยะสั้นเท่านั้น แต่เหตุการณ์ที่ทำส่งผลกระทบต่อเหรียญ xrp คือการขึ้นศาลของ Ripple ทำให้ เหรียญ xrp ทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้งในวันที่ 30 มกราคม ส่งผลให้มีการซื้อขายกันอยู่ในกรอบแคบๆ ที่ $0.4 – $0.6

ที่มาของรูป : https://th.investing.com/crypto/xrp/xrp-usd-chart เว็บดูกราฟฟรี

         จากการ วิเคราะห์ เหรียญ xrp วันนี้ ด้วยกราฟทางเทคนิค จะเห็นว่าราคาอยู่ในช่วงพักตัวและ Side Way  ที่ระดับ 0.50- 0.7 Usd/xrp ซึ่งในระยะสั้น หากไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือราคา $0.70 ได้ อาจมีแนวโน้มที่จะลงต่อได้หากราคาหลุดลงต่ำกว่า &0.50 นั่นแสดงว่าความแข็งแรงของเทรนขาลงยังแข็งแกร่งอยู่ นักลงทุนอาจรอท่าทีอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเฝ้าดูจุดต่ำสุดเดิมคือ $0.50 จะต้องไม่มีราคาต่ำกว่าเดิมหรือ New low
          สภาวการณ์ในอนาคตคาดว่าเหรียญคริปโต xrp  ซึ่งคงต้องมาลุ้น กลต.ของสหรัฐอีกทีว่า Ripple จะสามารถชนะคดีในกรณีที่ผู้บริหารขายเหรียญ xrp โดยไม่มีข้อบังคับและข้อหาการซื้อขายหลักทรัพย์โดยที่ไม่ได้จดทะเบียนได้หรือไม่ เพราะไม่มีใครสามารถที่จะคาดเดาได้ ภายหลังจากราคาที่ลงมามากกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปี 2021 เป็นต้นมา สำหรับใครที่ติดดอยและไม่สามารถขายออกได้ทันจะต้องกลับไปพิจารณาสิ่งต่างๆ ดังนี้
  • Money Management
  • Risk
  • เทรด Setup ในการซื้อและขาย
  • Mind Set ของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไร

แนวโน้ม eth เหรียญที่มีแพลทฟอร์มที่ดีที่สุด

         คริปโตเคอเรนซีที่มีประสิทธิภาพและสามารถนำมาใช้งานได้จริงตอนนี้คงจะมีเหรียญใดไปไม่ได้นอกจาก Ethereum ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มที่มีเหรียญเป็นของตนเอง ก่อนที่จะนำมาพัฒนาให้สามารถใช้งาน Smart Contract มากที่สุด ทางโกลด์แมนแซคส์ยังได้ประเมินแนวโน้ม eth อีกว่า ในอนาคตมูลค่าเหรียญ eth จะสามารถพุ่งทะยานขึ้นแท่นอันดับ 1 แซงหน้าเหรียญ Bitcoin ได้ในไม่ช้า แม้ Bitcoin จะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เริ่มต้นตลาด ในขณะที่มีการศึกษาออกมาว่าในเรื่องของการคำนวณธุรกรรม Bitcoin ทำได้เพียง 7 รายการต่อวินาที ในขณะที่ ETH สามารถทำได้มากกว่าถึง 20 ธุรกรรมต่อวินาที แม้คริปโตเคอเรนซีจะมีการแข่งขันกันแต่ก็ยังคงมีความเสี่ยง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดกับ xrp ทำให้ทองคำและฟอเร็กซ์ยังเป็นสินค้าที่น่าลงทุนมากกว่า ดังจะเห็นได้จากราคาของเหรียญคริปโตเกือบทั้งตลาดที่โดนเทขายจากนักลงทุนในช่วงต้นปี 2021 ที่ผ่านมา ในส่วนของ eth เองก็ไม่พ้นการเทขายในครั้งนี้ หากแต่เกิดในช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ทำเอานักลงทุนต่างติดดอยและขาดทุนจำนวนมาก เพราะที่ผ่านมาราคาที่เห็นยังไม่อาจสะท้อนพื้นฐานของประโยชน์ในการนำไปใช้งานตามความเป็นจริงได้

การพัฒนาที่สำคัญของ ETH

          การเปิดตัวอัลกอริทึม Proof of Stack ที่สามารถตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมบน BlockChain ที่ได้รับการพัฒนาจากของเดิมที่มีชื่อว่า Proof Of Work ทำให้เกิดการลงทุนแบบใหม่ของ Defi ที่เป็นการบริการการลงทุนโดยปราศจากตัวกลาง ทำให้ลดต้นทุนลงไปได้เป็นอย่างมาก และที่สำคัญคือสามารถตรวจสอบและการบันทึกธุรกรรมได้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้เกิดความน่าเชื่อถือและโปร่งใสเป็นอย่างมาก อัลกอริทึม Proof of Stack ที่จะเข้ามาแทนที่ของเดิมนั้น ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำงานช่วยให้ประหยัดพลังงานน้อยลงและภายในปี 2565 Ethereum จะทำการเปลี่ยนโปรโตคอลจากของเดิมมาเป็น Proof Of Stack ซึ่งจะทำให้นักขุดไม่ต้องใช้พลังงานที่มากอีกต่อไป
Defi  
          อีกหนึ่งการพัฒนาที่เกิดขึ้นของ Ethereum ที่มีการเจริญเติบโตอย่างเห็นได้ชัด Defi เป็นผู้ให้บริการเงินกู้ใน BlockChain ของ Ethereum ที่จะต้องมี Smart Contract เท่านั้นในการส่งออก โดยการกู้ยืมนี้ผู้กู้สามารถนำสินทรัพย์ดิจิตัล หรือ Digital Asset มาใช้ในการค้ำประกันได้ โดยสินทรัพย์ที่จะนำมาค้ำประกันนั้นต้องมีมูลค่าสูงกว่า เช่น ต้องการกู้ ETH มูลค่า $100  ผู้ก็ต้องนำเงินมาค้ำประกันด้วยมูลค่า $150-$200 หรือสินทรัพย์อื่นๆ เป็นต้น
          แนวโน้ม eth และราคาที่ควรจะเป็น ภายหลังจากราคาทำจุดสูงสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ระดับราคา $4366 ก่อนที่จะทิ้งดิ่งลงมาทำจุดต่ำสุดที่ $1707 ก่อนที่จะดีดตัวอีกครั้งหนึ่งไปแตะที่ระดับ $2296 ซึ่งเป็นการเด้งเพื่อลงต่อ แต่ทั้งนี้ต้องมาดูกันอีกทีว่า แนวรับที่ระดับ $1707 จะสามารถเอาอยู่หรือไม่ เพราะหากแนวรับนี้ไม่สามารถรับอยู่ เป็นไปได้ว่าแนวโน้ม eth อาจต่ำลงได้อีก โดยกราฟในระยะกลางถึงยาว (week-month) เป็นไปได้ที่จะเห็นราคาลงไปที่แนวรับ $1200 แต่นั่นเป็นมุมมองระยะไกล ซึ่งอาจจะมาถึงหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุผลที่ว่าจีนที่มีระบบเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ออกมาประกาศแบนเหรียญคริปโตเคอเรนซีทุกชนิดและสั่งห้ามธนาคารในประเทศทำธุรกรรมผ่านเหรียญคริปโต ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุว่าทำไมราคาเหรียญคริปโตทุกชนิดถึงล่วงลงมามากกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปี 2021 เป็นต้นมา
Subscribe
Advertisement