เตือนภัย! แอบอ้างเป็นคนของพรรคการเมือง เอาข้าวสารไปแจกหลอกเอาบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีม้า มีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่าร้อยราย

           เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ที่สถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ได้มีผู้เสียหายกว่า 20 ราย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน หลังถูกนางสาวศิริวรรณ สมาน หรือนิด อายุ 50 ปี และนางสาวสุนิสา วงศ์แก้ว อายุ 31 ปี ได้นำข้าวสารมาแจก อ้างว่าเป็นของนายพรชัย วงศ์ล้อมนิล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคไทยสร้างไทย และขอบัตรประชาชนไป พร้อมทำการสแกนหน้า พอหลังจากนั้นไม่นานมาทราบว่าถูกแอบไปเปิดบัญชีม้า มีเงินหมุนเวียนกว่า 6 หมื่นบาท ที่ส่วนใหญ่เป็นคนในตำบลหนองปรือ ตำบลหัวถนน ตำบลสระสี่เหลี่ยม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เป็นผู้เสียหายมากกว่า 100 คน ทยอยมาแจ้งความ
          จากการสอบถามนางสาวอารียา สมินเย อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ได้มีนางสาวนิด ที่รู้จักกันดี เนื่องจากเป็นทีมงานของ ส.จ.ไก่ ที่ตอนนี้กำลังจะไปสมัครเป็น ส.ส.ในปีหน้า ได้นำข้าวสารมาแจกถึงที่ แต่มีเงื่อนไขต้องสแกนใบหน้าและขอบัตรประชาชนไปก่อน แล้วจะนำมาคืนให้ภายหลัง ตอนแรกจะไม่เอา แต่เห็นว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลยรับไว้ และได้ทราบข่าวว่ามีคนถูกนำไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จึงไปเช็คกับธนาคารดู จึงได้รู้ว่ามีชื่อนำไปเปิดบัญชีเพิ่มอีกบัญชี ทำให้ต้องแจ้งความป้องกันตัวเองไว้
           ขณะที่นายพรชัย หรือ ส.จ.ไก่ ได้กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับนางสาวนิดดี เนื่องจากเคยมาช่วยหาสมาชิกพรรค แต่มาระยะหลังไม่ได้มาช่วยงานตนแล้ว ทำให้ไม่เจอกัน ซึ่งตนไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการนำชื่อของตนไปแจกข้าวสารแลกกับบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีม้า ที่เอาไปเงินหมุนเวียนเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งตนยืนยันไม่เคยแจกข้าวสาร ส่วนใหญ่ที่แจกจะเป็นแมสก์ กับยาแก้โควิด ตนเองพร้อมชาวบ้านจึงเข้าแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับตัวมาดำเนินคดี
          ด้าน พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผู้กำกับการ สภ.พนัสนิคม เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่อง ได้สืบสวนสอบสวน และสามารถจับผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย คือ นางพิ้ง (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 50 ปี ที่เป็นเครือข่ายการหลอกลวงในครั้งนี้ และยังมีการออกหมายจับอีกจำนวน 3 ราย มาดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันนำบัตร หรือ ใบรับ หรือใบแทนบัตรประชาชนของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตร และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับตัวทั้งหมดได้เร็วๆ นี้
         ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนให้รักษาข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะบัตรประชาชน ที่เป็นการแสดงตัวตนของตัวเอง อย่าให้ใครเด็ดขาด เพราะสามารถนำไปใช้ทำทางธุรกรรมได้ ซึ่งจะทำให้เราเองเกิดความเดือดร้อนและเสียหายได้

 

Subscribe
Advertisement