เริ่มแล้ว! แผนปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่สาธารณะชายหาดนาจอมเทียน ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน บูรณาการร่วมหลายหน่วยงาน ด้านผู้ประกอบการและประชาชนพื้นที่พร้อมสนับสนุนแนวทางปฏิบัติ หลังต้องประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านการจราจรและภาวะทางเสียง

           27 มิ.ย.65 ที่ บริเวณชายหาดนาจอมเทียน ว่าที่พันตรี ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน นายอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วยนายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา น.ส.ระพีพรรณ รัตนเหลี่ยม นายกเทศมนตรีตำบลนาจอมเทียน ร่วมปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ จาก 11 หน่วยงาน ในการบูรณากำลังแผนปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน หลังเทศบาลนาจอมเทียนได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ห้ามมิให้มีการจำหน่ายสินค้า อาหารหรือเครื่องดื่มบนพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน ทางเท้า และถนนเลียบชายหาดนาจอมเทียน และห้ามมิให้นำสิ่งของและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาติดตั้งบนพื้นที่ชายหาด ทางเท้า และผิวจราจร หากพบมีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
          สำหรับการบูรณาการในครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ ตำรวจ สภ.นาจอมเทียนและ สภ.พัทยา เจ้าหน้าที่เจ้าท่าพัทยา เจ้าหน้าที่เทศกิจนาจอมเทียนและเมืองพัทยา และฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการตรึงกำลังออกเป็น 5 จุด ในการเจรจากับพ่อค้าแม่ค้าที่จะมาจับจองพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียนในการจำหน่ายสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม โดยจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่หากยังพบมีการฝ่าฝืนก็จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
         ทั้งนี้ทางเทศบาลตำบลนาจอมเทียนได้มีการปักป้ายประกาศขนาดใหญ่ ระบุข้อความ “เรื่องห้ามมิให้มีการจำหน่ายสินค้า อาหารหรือเครื่องดื่ม และห้ามมิให้นำสิ่งของและอุปกรณ์ต่าง ๆ มาติดตั้งบนพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน ทางเท้าหรือถนนเลียบชายหาดนาจอมเทียนสำหรับใช้ประโยชน์ในการประกอบกิจการส่วนตัว” ซึ่งได้มีการติดป้ายประกาศคำสั่งเป็นระยะ ๆ ตลอดแนวชายหาดนาจอมเทียน เพื่อเป็นการแจ้งเตือนและขอความร่วมมือกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ในการจัดระเบียบเพื่อที่ชายหาดนาจอมเทียน
          ว่าที่พันตรี ชาติชาย ศรีโพธิ์อ่อน นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า สำหรับการบูรณาการร่วมหลายหน่วยงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการจัดระเบียบชายหาดนาจอมเทียน ซึ่งหากยังมีการปล่อยไว้แบบนี้อนาคตจะเกิดปัญหาตามมาในพื้นที่บริเวณดังกล่าว อีกทั้งที่ผ่านมาประกอบการมีการเปรียบเทียบระหว่างชายหาดนาจอมเทียนและชายหาดจอมเทียนเรื่องของการประกอบกิจการที่แตกต่างกัน พื้นที่นาจอมเทียนมีอิสระเสรีในการค้าขาย แต่ในส่วนจอมเทียนสามารถประกอบกิจการภายใต้เงื่อนไขของเวลา อีกทั้งปัญหาจราจรที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทวงคืนพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งจะมีการดำเนินการพิจารณาการจัดระเบียบให้กับพ่อค้าแม่ค้าในการทำมาหากินต่อไป
         โดยการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้จะเป็นการใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เน้นการเจรจาทำความเข้าใจกับกลุ่มพ่อค้าแม่ พร้อมให้มีการถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐานหากมีความรุนแรงระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้น อีกทั้งระหว่างการปฏิบัติการเอาคืนพื้นที่นั้นจะมีการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน หากมีการฝ่าฝืนก็จะมีการนำ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและพ.ร.บ.จราจรบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป
            ด้านนายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา กล่าวว่า กรมเจ้าท่ามีหน้าที่ตามกฎหมายในการบูรณะฟื้นฟูชายหาดที่เสื่อมโทรมและถูกกัดเซาะจากน้ำทะเลจนไม่เหลือสภาพความเป็นชายหาด โดยบริเวณชายหาดนาจอมเทียนเดิมเป็นพื้นที่ที่มีชายหาดแต่ถูกกัดเซาะเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ กรมเจ้าท่าจึงทุ่มงบประมาณในการดำเนินการโครงการเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียน ทั้งนี้เพื่อบูรณะชายหาดที่ขาดหายไปให้กลับคืนสู่สภาพเดิมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกันในการใช้เป็นพื้นที่สันทนาการพักผ่อน เนื่องจากปัจจุบันทะเลนาจอมเทียนยังมีความสวยงามจากธรรมชาติ และด้วยศักยภาพของพื้นที่เนื่องจากอยู่ใกล้เมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทำให้การเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียนเป็นการเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวให้กับเมืองพัทยาและเทศบาลตำบลนาจอมเทียนในการรองรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น
          ทั้งนี้หลังเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียนแล้ว กรมเจ้าท่าได้มอบหมายให้เทศบาลตำบลนาจอมเทียนดูแลรักษาพื้นที่ระยะทาง 1,050 เมตรไปแล้วนั้น พบว่ามีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการร้านค้าที่มีลักษณะเป็นรถโมบายเคลื่อนที่มาจองพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้กับประชาชนที่มาพักผ่อนในพื้นที่ดังกล่าวและเกิดความขัดแย้งกัน ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงได้มีการบูรณาการกำลังเพื่อขอคืนพื้นที่ในการจัดระเบียบต่อไป
          ขณะที่ชาวบ้านที่พักอาศัยบริเวณพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน กล่าวว่า เห็นด้วยกับการจัดระเบียบชายหาดนาจอมเทียนของหน่วยงานภาครัฐในครั้งนี้ หากไม่มีร้านค้าเลยนักท่องเที่ยวจะได้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ มีชายหาดที่สวยงามได้นั่งพักผ่อน ไม่มีโต๊ะเก้าอี้มาตั้งบริเวณชายหาดทำให้ไม่สวยงาม อีกทั้งยังต้องเสียค่าบริการนั่งโต๊ะอีกด้วย ทำให้การเดินเที่ยวชายหาดยากลำบากมากขึ้น วันนี้ไม่มีร้านค้ามาจับจองพื้นที่ทำให้ชายหาดนาจอมเทียนสวยงามสะอาดตามากขึ้น และไม่เห็นภาพที่มีผู้ประกอบการร้านค้าเกิดความขัดแย้งแย่งพื้นที่ขายของกันเองด้วย

Subscribe
Advertisement