ปู่สุดทน หลานถูกแม่ตีแล้วส่งรูปไปให้ลูกชายที่จีนดูเพื่อเรียกเงิน จึงเข้าประสาน พม.เข้าแจ้งความ ขอเอาหลานกลับมาดูแลเอง

            เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 มีนาคม 2565 นางสาวมนัสนนันท์ ศุภพิทักษ์สกุล หัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี พร้อมนายสมศักดิ์ โตเพิ่มสุข อายุ 60 ปี ได้เดินทางเข้าบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.เดชา ดินแดน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี เนื่องจากเด็กหญิงถูกทำร้ายทารุณกรรมจากผู้เป็นแม่ของเด็ก จึงต้องการนำหลานไปเลี้ยงเอง จากความต้องการของพ่อเด็กที่ได้เลิกรากันไปแล้ว หลังจากนั้นได้นำกำลังตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ พร้อมผู้นำท้องที่และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองชลบุรี เข้าไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 88/27 หมู่ 2 ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

          เมื่อไปถึงได้พบกับนางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี และน้องนิ้กกี้ อายุ 7 ปี อยู่ในบ้านพร้อมครอบครัว จากการตรวจสอบที่ลำตัวน้องนิ้กกี้ไม่พบร่องรอยของบาดแผลแล้ว มีเพียงร่องรอยที่จางๆ เท่านั้น

           จากการสอบถามนายสมศักดิ์ ปู่ของน้องนิ้กกี้ได้เปิดเผยว่า หลานของตนได้มาอยู่กับแม่เพราะลูกชายของตนทำงานที่ประเทศจีน เมื่อ 3 วันก่อนนางสาวบีแม่ของหลานตนได้ถ่ายรูปหลานที่มีแผลถูกตีไปให้น้องสาวตนที่ทำงานอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียเหมือนเรียกร้องทำนองว่าตีน้องอีกแล้ว แต่ด้วยความที่น้องสาวของตนรักหลานคนนี้มาก จึงส่งรูปไปให้ลูกชายของตน ซึ่งเป็นพ่อของน้องนิ้กกี้ และได้ส่งรูปนี้มาให้ตน พอตนเห็นภาพแล้วรับไม่ได้ เพราะตนก็รักหลานคนนี้มากเช่นกัน และที่มาแจ้งความวันนี้เพราะตนทนไม่ไหว ต้องการหลานไปเลี้ยงดูเอง กลัวปล่อยไว้จะถูกตีแบบนี้อีก ตนจะไม่ยอมให้หลานอยู่นี่อีก

             ทางด้านนางสาวบี แม่น้องนิ้กกี้ ได้เปิดเผยว่าตนได้ตีลูกจริง แต่ตีด้วยความรัก และสั่งสอนเพราะว่าลูกชอบโกหก หลังจากที่ทำไอแพดแตก ตนก็ถามว่าใครทำ ลูกก็ชอบโกหกว่าคนนั้นทำ ชอบใส่ร้ายคนอื่น ตนก็ต้องตีพอตีเสร็จถึงสารภาพว่าทำ และครั้งล่าสุดตนก็ตีเพราะว่าตนซื้อตู้เย็นใหม่มาแล้วลูกสาวไปดึงที่เก็บของแตก ตนก็ถามว่าใครทำ ลูกก็โกหก ตนจึงตี แต่พอตีเสร็จลูกถึงสารภาพว่าทำเอง ตนก็บอกลูกทุกครั้งว่าที่ตีเพราะรักและไม่อยากให้โตมาเป็นคนโกหก ถ้าทำผิดต้องรับสารภาพว่าทำผิดอย่าโกหกอีก ที่ตนส่งรูปไปให้อาดูเพราะตนมักจะคุยกับอาเพราะอารักหลานมาก ตนก็ส่งไปให้อาดู เพื่อให้รู้ว่าตนตีน้องนิ้กกี้เพราะน้องนิกกี้โกหกอีกแล้วจึงตี เพราะอยากให้อาเข้าใจว่าน้องนิ้กกี้ดื้อจึงถูกตี แต่ที่ตีก็เพราะแม่รักลูกสั่งสอนลูกเพื่อที่โตขึ้นมาจะได้เป็นดีแค่นั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจตีลูกแบบโหดร้ายอะไรขนาดนั้น

           ทางด้านนางสาวมนัสนนันท์ ศุภพิทักษ์สกุล หัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เข้าไปแจ้งความแล้วนำกำลังตำรวจมาตรวจสอบ ก็พบว่าเด็กมีความผูกพันกับแม่มากกว่าปู่ เพราะเวลาเด็กเจอปู่แล้วเด็กจะร้องไห้หวาดกลัว ไม่อยากเข้าใกล้ ซึ่งแตกต่างจากที่ปู่พบเด็ก จากการตรวจสอบบาดแผลพบว่าจางหายแล้ว ซึ่งบาดแผลที่พบอาจจะเกิดจากการที่เด็กเล่นซนหรือจากบาดแผลที่ถูกตีก็แยกไม่ออก เพราะรอยแผลมองไม่เห็นแล้ว คงต้องส่งเด็กไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยแม่เด็กก็ยินยอมเพราะแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากการพูดคุยกับแม่ของเด็กก็ทราบว่าแม่เด็กได้ตีจริง ตั้งแต่เลี้ยงมาได้ตีลูกแค่ 2 ครั้ง แต่จะตีเฉพาะที่ลูกดื้อแบบสุดๆ และทำของเสียหาย จึงได้ตีเพราะสั่งสอนเท่านั้น ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาของทางครอบครัว เพราะแม่ตีและสั่งสอนลูกก็เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ถ้าหากเป็นการตีหรือทารุนนั้นคือการทำร้ายด้วยความรุนแรง แต่ครั้งนี้เป็นการตีสอนด้วยไม้แขวนเสื้อพลาสติก และบาดแผลไม่มีร่อยรอยแล้ว แต่ก็จะส่งเด็กไปตรวจร่างกายอีกครั้ง

         อย่างไรก็ตามตนอยากจะเตือนพ่อแม่ รักครอบครัวและลูกควรหมั่นใส่ใจ เพราะเด็กเล็กสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญ หากใช้อารมณ์เพียงชั่ววูบ เด็กจะรับรู้และสัมผัสอารมณ์แล้วสุขภาพจิตของเด็กจะไม่ดีด้วย อยากให้ใจเย็น มีอะไรค่อยพูดคุยจะดีกว่า