กลุ่มพลังมวลชนนับพันแห่ให้กำลังใจรัฐมนตรีเฮ้ง หลังเจอกระแสดราม่ากับบ้านใหญ่ พร้อมยืนหยัดต่อสู้กับพรรคพลังประชารัฐ

          เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ สำนักงานพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี กลุ่มพลังมวลชนกว่า 1,000 คน ประกอบด้วยผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ได้มาร่วมให้กำลังใจ อาทิ กลุ่มพลังใหม่เมืองชลบุรี กลุ่มพลังใหม่เมืองบ้านสวน กลุ่มพลังใหม่เสม็ด กลุ่มพลังใหม่อ่างศิลา กลุ่มพลังใหม่เหมือง รวมทั้งนายก อบต.ในเขตพื้นที่ อ.เมืองชลบุรี อ.พานทอง อ.พนัสนิคม และอีกหลายพื้นที่ใน จ.ชลบุรี ได้มาร่วมให้กำลังนายสุชาติ ชมกลิ่น หรือรัฐมนตรีเฮ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หลังจากมีเหตุดราม่าในโลกโซเซียลกับกลุ่มบ้านใหญ่ พร้อมทั้งมอบดอกกุหลาบ กระเช้าของขวัญ และให้กำลังใจในแนวทางการเมืองต่อไป นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญมาร่วมให้กำลังใจ อาทิ นายสมชาติ คุณปลื้ม น้องชายกำนันเป๊าะ หรือนายสมชาย คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข นายสมโพธิ์ นะมะอะอุ สมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี เขต อ.เมืองชลบุรี
        นายสมชาติ คุณปลื้ม กล่าวว่า ตนเองอยู่กับรัฐมนตรีเฮ้งมานานหลายปี ตั้งแต่เด็กๆ ความจริงไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีความจำเป็นจริงๆ เห็นการทำงานของรัฐมนตรีเฮ้งยอมรับว่าสุดยอด ใจนักเลงเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ช่วยอย่างเดียวไม่หวังอะไรตอบแทน อยากให้รัฐมนตรีสู้ๆ
          ด้านนายสมโพธิ์ นะมะอะอุ สมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี เขต อ.เมืองชลบุรี กล่าวว่า รัฐมนตรีเฮ้งใจดีมีแต่ช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้ประชาชนรักและเคารพมาก ยืนยันว่าหลายคนจะอยู่กับรัฐมนตรีเฮ้ง ที่ผ่านมายอมรับว่าการกระทำของบ้านใหญ่ ตนเองก็โดนแบบนี้เหมือนกับรัฐมนตรีมาแล้ว เคยไปขอความช่วยเหลือ รับปากว่าจะช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย แล้วนิ่งหายไป เมื่อรัฐมนตรีเฮ้งโดนกระแสโซเซียลถล่มอย่างหนัก ก็บอกให้สู้ๆ โดยนิ่งสยบความเคลื่อนไหว และไม่ต้องโต้ตอบมาก เพราะหากโต้ตอบมากจะเป็นกระแสในโลกโซเซียลและสังคม เชื่อว่ายังมีคนที่จะต่อสู้แทนรัฐมนตรีเฮ้งอีกมาก
          ทางด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น กล่าวว่า จากการที่ทำงานร่วมกับกับผู้นำท้องถิ่นมาตั้งแต่ปี 2550 ช่วงที่เป็น ส.ส. พวกเราอยู่กับแบบครอบครัวเหมือนพี่เหมือนน้อง ไม่ใช่อยู่กับแบบลูกพี่ลูกน้อง อยู่กับแบบครอบครัวเหมือนพี่เหมือนน้องมากกว่า สุขก็สุขด้วยกัน ทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นจะต้องมีการแข่งขันกันทุกคน ทุกคนจะต้องต่อสู้ทางการเมืองทั้งนั้น แต่เมื่อตนเองอยู่กับใครแล้วจะต้องสู้ถวายหัว ใครเต็มที่กับตน ตนก็เต็มที่ด้วยเช่นกัน ในทางการเมืองเมื่อมีอุดมการณ์ตรงกัน ทำเพื่อชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะจะสนับสนุนลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย หากใครมีแนวคิดเดียวกันก็อยู่ด้วยกันได้ หากอุดมการณ์ไม่ตรงกันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ โดยมองบ้านเมืองประเทศชาติเป็นหลัก ไม่มีธุรกิจเกี่ยวกับการเมืองแน่นอน ยืนยันว่าทุกคนจะต้องเสียสละเพื่อบ้านเมือง การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งหน้า เป็นสิ่งประชาชนชาวชลบุรีจะต้องพิสูจน์ จะเลือกนักการเมืองสไตล์ไหน หากเลือกในกลุ่มเดิมๆ ที่ไม่มีอะไรพัฒนาเลย หรือจะเลือกแบบที่ประชาชนพึ่งได้ ซึ่งตนได้บอกเสมอว่าเป็นนักการเมืองยิ่งสูงก็ต้องทำตัวให้ต่ำ แต่ถ้าตำแหน่งสูงแล้วยังทำตัวสูงส่ง พี่น้องประชาชนก็จับต้องไม่ได้ ก็คือความหายนะของนักการเมืองในอนาคต วันนี้นักการเมืองจะต้องเสียสละ ทั้งทรัพย์สินส่วนตัวและเวลาที่จะให้กับครอบครัว เพราะอาสามาเป็นตัวแทนให้กับประชาชนแล้ว จะต้องทำงานอย่างเต็มที่ ชลบุรีถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว ที่ชาวชลบุรีจะเป็นผู้ตัดสิน หากอุดมการณ์เดียวกันก็อยู่ด้วยกันได้ ตนเองสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนลงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี
         “ตนเองเป็น ผอ.การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล จังหวัดอื่นพร้อมหมด จ.ชลบุรี ไม่พร้อมได้อย่างไร หน้าที่เรา ภารกิจเรา และพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดำริให้ตนจัดตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งใน จ.ชลบุรี เป็นลูกพรรคและ ผอ.การเลือกตั้ง จึงต้องดำเนินการให้ภารกิจลุล่วง” นายสุชาติกล่าวและว่า นักการเมืองที่เป็นผู้นำในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้มีการพูดคุยกันเหมือนพี่น้อง มีความเดือดร้อนอย่างไร อะไรช่วยเหลือได้ก็ต้องรีบดำเนินการ ไม่ใช่ทำตัวแบบเลือกตั้งครั้งหนึ่งแล้วมาพบประชาชน แล้วใครจะคบกับพวกเรา เป็นมา 4 ปีแล้วไม่เห็นทำอะไรให้กับประชาชน แล้วอย่างนี้จะอยู่ในสังคมได้อย่างไร
          นายสุชาติกล่าวอีกว่า การเมืองใน จ.ชลบุรีจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่ชาวจังหวัดชลบุรีเป็นผู้ตัดสินใจ การเมืองต้องยอมรับว่าจะต้องมีการเสียสละ ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เป็นที่พึ่งพิงของประชาชนที่เลือกตั้งเข้าไปในสภา การเมืองไม่ใช่ธุรกิจในครอบครัวตนของยืนยันการเมืองไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ ทำงานการเมืองมาตลอด ยิ่งสูงขึ้นไปก็ต้องทำตัวให้ต่ำลง ส่วนเรื่องจะมีนิทานตอนต่อไปนั้นคิดว่าเรื่องคงจบแล้ว หลังจากนี้ควรจะตั้งหน้าตั้งตาเตรียมตัวที่จะมีการเลือกตั้งในอนาคต คาดว่าจะเหลือเวลาอีก 1 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าชาวชลบุรีจะเลือกการเมืองแบบเดิมๆ หรือจะเลือกนักการเมืองที่เสียสละเพื่อบ้านเมืองและมีความชัดเจน คือ ทำเพื่อประชาชน และสามารถจับต้องได้ในเรื่องของการทำงาน
Subscribe
Advertisement