มิจฉาชีพสุดแสบ อ้างตัวเป็นนายตำรวจหลอกลวงข่มขู่รีดเงิน ร้องศูนย์ช่วยเหลือ ปชช.ทางกฏหมายฯ ช่วยเหลือด่วน

          เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ม.ค.65 นายประทีป นาคบังเกิด ทนายความศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย จังหวัดชลบุรี นำนายศักดิ์ดา โพธิอะ เจ้าหน้าที่ขับเครื่องจักกล งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ และนางสาววรัญญา เฟื่องน้อย เจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาลเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ สองสามีภรรยา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.ธนัส ศรีประมาณ สว.สอบสวน สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพ คอลเซ็นเตอร์ กรรโชกทรัพย์
         โดยหลอกลวงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ สวมรอยอ้างชื่อนายตำรวจยศร้อยตำรวจเอก และร้อยตำรวจตรี โทรศัพท์เข้ามาหานางสาววรัญญากับสามี โดยหลอกลวงว่ามีเจ้าหน้าตำรวจจับกุมกล่องวัสดุที่นางสาววรัญญาส่งไปที่ประเทศจีน ชื่อผู้รับนายหยาง ต้า หมิง เลขที่ 99/012 ถ.เหียแอ้น กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน 00123 รหัสศุลกากร 00963 โดยสิ่งของที่ส่งไปประกอบด้วย หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) จำนวน 14 เล่ม บัตรกดเงิน เอทีเอ็ม จำนวน 10 ชุด เป็นหลักฐานสำหรับใช้ในการฟอกเงินซึ่งผิดกฎหมาย หากจะไม่ให้ออกหมายจับและดำเนินคดี ต้องจ่ายเงินประกันตัว 85,000 บาท และใช้อุบายหลอกลวงอีกว่า ในเบื้องต้นให้ส่งเงินจำนวน 10,000 บาท มาก่อนเพื่อเป็นการตรวจสอบบัญชีธนาคาร แต่นางสาววรัญญาต่อรองว่ามีเงินแค่ 7,000 บาท เพิ่งจะได้รับโบนัสปีใหม่จากที่ทำงานมาและจะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกเล็ก แต่ทางด้านมิจฉาชีพได้บอกว่าให้โอนมาก่อน และเมื่อตรวจสอบบัญชีเสร็จแล้วจะโอนคืนให้ในช่วงเย็น พร้อมกับพูดจาข่มขู่จนเกิดความกลัว จึงได้โอนเงิน จำนวน 7,000 บาท ไปให้พวกมิจฉาชีพและสั่งห้ามไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด มิฉะนั้นจะส่งเรื่องดำเนินคดีติดคุกอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ เข้ามาเช็คกับนางสาววรัญญาเป็นระยะๆ และขอให้เปิดกล้องวีดีโอคอลล์ เพื่อตรวจสอบว่ามีใครอยู่ด้วยหรือไม่
ต่อมานางสาววรัญญาเกิดความสงสัยจึงได้กดโทรศัพท์ ค้นหาในกลูเกิ้ล และพบข่าวแก๊งมิจฉาชีพในลักษณะนี้ ถูกแจ้งความดำเนินคดีรู้สึกตกใจมาก เมื่อรู้ว่าตัวเองกับสามีตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว จึงได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากนายประทีป นาคบังเกิด ทนายความศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายจังหวัดชลบุรี เพื่อนำความเข้าแจ้งร้องทุกข์กับ จนท.ตำรวจ สภ.สัตหีบ เพื่อประสานงานและดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ข่มขู่หลอกรีดเงินในครั้งนี้
          และในขณะที่นางสาววรัญญากำลังให้ข้อมูลอยู่กับทนายประทีปอยู่นั้น กลุ่มมิจฉาชีพได้โทรศัพท์มาเร่งให้นางสาว วรัญญาโอนเงินส่วนที่เหลือ จำนวน 78,000 บาท ให้ครบโดยเร็ว นางสาววรัญญาจึงได้บันทึกเสียงสนทนาไว้เป็นเป็นหลักฐาน ส่งให้ จนท.ตำรวจ ติดตามกลุ่มมิจฉาชีพเพื่อนำเงินคืน และดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพื่อมิให้บุคคลอื่นต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพนี้ต่อไป
           จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว จะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม สภ.ต่างๆ และจะโทรศัพท์สุ่มหาเหยื่อ อ้างว่าเหยื่อทำผิดกฎหมาย หากไม่โอนเงินให้จะดำเนินคดีตามกฏหมาย มีเหยื่อหลายรายหลงเชื่อ โดนหลอกเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งกำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้

Subscribe
Advertisement