สาวเจ้าของคลินิกเตือนภัย ไปบวชชีพราหมณ์กลับเจอชายแปลกหน้าป่วนอ้างเป็นสามี แตกตื่นทั้งวัด

           จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part1 ได้โพสข้อความ “#เตือนภัย แม่งงมั่ว..ป่วย ญาติช่วยพารักษาดูแลดีๆ น้องมาถือศีลบวชชีแต่กลับจะได้ผัว ถถถ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่วัดขณะกำลังบวชอยู่แท้ๆ มายืนรอจนทำวัตรเสร็จ ใครก็ไม่รู้ว่าหาว่าเราเป็นแฟน หาว่าเราชื่อตาล และมีลูกด้วยกัน 1 คน แล้วบอกว่า ให้เอาเอกสารรถมายืนยันและบัตรประชาชน คุยกันอยู่นานมาก คลิปนี้คือตอนตำรวจมาแล้ว เขาท้าแม่ชีด้วย คือป่วนมาก ในคลิปแค่ส่วนนึงเท่านั้น
*** เขาเป็นคนเรียกตำรวจมาเอง เพื่อที่จะตรวจสอบเรา และรถเรา
– ก่อนหน้านี้เขาให้แม่ชีมาสะกิด 2 รอบ รอบแรกบอกซื้อของมาถวายชีขณะที่เราสวดมนต์อยู่ ทางเราก็เลยส่ายหัว ( ทำมือไม่ใช่ค่ะ) รอบสองสะกิดอีก บอกว่าเอาของมาให้ตาล เราก็เลยพูดว่าไม่ใช่ค่ะ ไม่ได้ชื่อตาล
-กลับมาเลยค่ะ อันตรายมาก เป็นชั่วโมงได้ หาว่าหนูชื่อตาล หนูก็บอกว่าไม่ใช่ เขาเพิ่งโดนจับสึกมาด้วย เพราะต่อยกับพระในวัด” พร้อมคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 2 นาที
          ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้เสียหายรายนี้คือ น.ส.ยศชญา คงประดิษฐ์งาม หรือคุณโยโกะ เจ้าของโยโกะคลินิกเวชกรรม โดยเปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ต.ค.64 ที่วัดธรรมนิมิตต์ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยตนเองตั้งใจจะไปบวชชีพราหมณ์กับเพื่อน เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน เหตุการณ์เริ่มขึ้นเวลาประมาณ 16.00 น. โดยตนและเพื่อน พร้อมแม่ชี รวมประมาณ 7 คน กำลังทำวัตรเย็นอยู่ ได้มีขายแปลกหน้าคนหนึ่งให้แม่ชีมาเรียกตน บอกว่าเอาของมาฝากชี แต่ตนไม่ได้สนใจ จนชายคนดังกล่าวให้แม่ชีมาเรียกอีกครั้ง บอกว่าเอาของมาฝากตาล ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ใช่ตนเอง ระหว่างนั้นชายคนดังกล่าวได้โทรศัพท์พูดคุยเสียงดังโดยจับใจความได้ว่า “ผมเจอมันแล้ว มันหนีมาบวช ผมจำรถมันได้”
            จนกระทั่งการวัตรเย็นเสร็จแม่ชีจึงเดินเข้าไปถาม ว่าเป็นใครมาจากไหน ชายคนดังกล่าวได้แจ้งว่า ตนเองเพิ่งมาสึกที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากมีปัญหากับวัดเดิม พร้อมแจ้งอีกว่า มาหาเมียที่ชื่อตาล เลิกกันมา 7 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ซึ่งตนเองได้ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่ตนแน่นอน แต่ชายคนดังกล่าวไม่เชื่อ พร้อมขอดูบัตรประชาชน และขอค้นรถ แต่ตนเองไม่ยินยอม จนมีการโต้เถียงกันไปมา และชายคนดังกล่าวเริ่มเสียงดังและบันดาลโทสะมากขึ้น จนแม่ชีเกิดความกลัว
           ต่อมาชายคนดังกล่าวก็ยังยืนยันว่า จะค้นรถตนให้ได้ เนื่องจากเป็นรถที่ชายคนนี้ได้สร้างมากับภรรยา แต่ตนเองไม่ยินยอม จากนั้นชายคนดังกล่าวได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อตำรวจมาถึงเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปวิดีโอ โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามไกล่เกลี่ยและสอบถามข้อเท็จจริง จนทราบว่าไม่เป็นไปตามที่ชายคนนั้นกล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวชายคนนี้ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ก่อนที่ตนเองจะขอยุติการบวชชีพราหมณ์เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
          ซึ่งตนยืนยันว่า ตนไม่เคยรู้จักหรือเคยพบเห็นชายคนดังกล่าวมาก่อน และไม่ใช่สามีตนเองอย่างแน่นอน โดยภายหลังตนเองได้รับการติดต่อจากญาติของชายคนดังกล่าว ทราบว่า บุคคลนี้ได้หายออกจากบ้านมาประมาณ 8 เดือน ซึ่งที่บ้านก็ไม่ทราบว่ามาบวช และบุคคลนี้มีประวัติป่วยต้องกินยาจิตเวชมากว่า 1 ปีแล้ว พร้อมกล่าวขอโทษแทน
         ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุตนทำให้ตนรู้สึกว่า วัดที่เคยเป็นสถานที่ปลอดภัย อาจจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป หากหญิงสาวท่านใดที่พบเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ขอให้มีสติไว้ อย่าอยู่ใกล้บุคคลอันตราย และขอความความข่วยเหลือให้เร็วที่สุด
Subscribe
Advertisement