เตรียมกำลังรับมือชุมนุม 14 กองร้อย เตือนไม่มีแกนนำ คนร่วมชุมนุมผิดหมด

          วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.แถลงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมกลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วม ในนาม “REDEM” (Restart Democracy) ที่จะเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปถึงกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป
          พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตามที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกและกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศนัดชุมนุมดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมโรงพักหลายท้องที่ จึงขอเรียนว่า กทม.ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค เข้าความความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ทั้งนี้ตำรวจจะใช้กำลังหลักจากกองร้อยน้ำหวาน หรือชุดควบคุมฝูงชนหญิง 1 กองร้อย ควบคู่กับกำลังควบคุมฝูงชนจากตำรวจนครบาล 1 และ 2 รวม 4 กองร้อย หากสถานการณ์ย่ำแย่ จะเพิ่มกำลังสำรองจาก บช.น.9 กองร้อย โดยตำรวจอนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้สิ่งกีดขวางได้มากที่สุดที่แนวกั้นถนนวิภาวดีช่องทางคู่ขนานหน้า รพ.ทหารผ่านศึก โดยไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมปิดช่องทางด่วน หรือช่องทางหลักเด็ดขาด เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดยาวที่ประชาชนจะใช้เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ
          พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเตรียมสิ่งกีดขวางนั้น ตำรวจได้พิจารณาตามความเหมาะสมจากการข่าว และพฤติกรรมของผู้ชุมนุม เพื่อลดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ เพราะการชุมนุมที่ผ่านมาเพราะมีการใช้อาวุธปืน วัตถุระเบิด พลุเพลิงที่อาจก่อเพลิงไหม้ เช่น การชุมนุมที่รัฐสภา เกียกกาย ที่แยกรัชโยธิน ที่หน้าสถานทูตเมียนมา และที่ศาลฎีกา ตำรวจมีความห่วงใยจึงจำเป็นต้องตั้งเครื่องกีดขวางและแบริเออร์ในบางสถานที่เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยได้นำสิ่งกีดขวางไปวางหน้ากรมทหารราบที่ 1 เพียง 1 ช่องทาง และให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านจราจร
           สำหรับการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อเนื่องศาลฎีกา มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค ซึ่ง กทม.จัดผู้แทนมาแจ้งความฐานทำให้เสียทรัพย์ จากการรื้อต้นไม้ที่ฐานอนุสาวรีย์ฯ มูลค่า 5 ล้านบาท เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 8 คน และจะทยอยเพิ่มมากขึ้น
          พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า แม้การชุมนุมในวันนี้ประกาศว่าจะไม่มีแกนนำ แต่ผู้ที่ชักชวนให้คนออกมาร่วมการชุมนุม, ผู้ปราศรัย, ผู้บริหารจัดการชุมนุม และผู้ร่วมชุมนุม ถือเป็นผู้กระทำผิดทั้งหมด ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยง ไม่ไปร่วมชุมนุม ไม่เช่นนั้นตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย
          ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่าวันนี้ประชาชนอาจเดินทางกลับเข้าเมืองหลังจากวันหยุดยาว จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไปจนกว่าการชุมนุมจะเสร็จสิ้น ได้แก่ ถนนพญาไทช่วงแยกพญาไท-อนุสาวรีย์ชัยฯ, ถนนพหลโยธิน ช่วงอนุสาวรีย์ชัยฯ-แยกสะพานควาย, ถนนดินแดงช่วงแยกดินแดง-อนุสาวรีย์ชัยฯ, ถนนราชวิถีช่วงอนุสาวรีย์ชัยฯ-แยกตึกชัย, ถนนวิภาวดีช่องคู่ขนาน หน้า รพ.ทหารผ่านศึก-สโมสรกองทัพบก และซอยพหลโยธิน 2 เฉพาะสะพานข้ามทางต่างระดับ โดยแนะนำให้ไปใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงดังนี้ คือ ถนนศรีอยุธยา, ถนนเพชรบุรี, ถนนจตุรทิศ ถนนพระราม 6, ถนนวิภาวดีช่องทางด่วน, ถนนสุทธิสารวินิจฉัย, ถนนประดิพัทธ์, ถนนกำแพงเพชร, ถนนกำแพงเพชร 2, ทางยกระดับอุตราภิมุข และทางพิเศษศรีรัชทางเฉลิมมหานคร ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางได้ที่สายด่วน บก.จร.1197 ตลอด 24 ชั่วโมง
Subscribe
Advertisement
Adam Judd
Mr. Adam Judd is the Chief of Content of TPN media, English language, since December 2017. He is originally from Washington D.C., America. His background is in HR and Operations and has written about news and Thailand for a decade now. He has lived in Pattaya for about ten years as a full-time resident, is well known locally and been visiting the country as a regular visitor for over 15 years. His full contact information, including office contact information, can be found on our Contact Us page below.Stories please e-mail Editor@ThePattayanews.com About Us: https://thephuketexpress.com/about-us/ Contact Us: https://thephuketexpress.com/contact-us/