เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พากลุ่มผู้เสียหายจำนวน 3 คน ที่ ถูก น.ส.พัช (สงวนนามสกุล) แอบอ้างตัวเป็นเลขานุการของ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดังหลอกลวงเงินกว่า 3 ล้านบาท เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บช.ก. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม โดยนำหลักฐานเอกสารต่างๆมามอบให้ประกอบการพิจารณา
โดยอี้ แทนคุณ กล่าวว่า น.ส.พัช ผู้ถูกกล่าวหา มีพฤติกรรม หลอกลวงผู้เสียหายอ้างว่า ตัวเองรู้จักกับคนใน GMM Grammy สามารถติดต่อพาไปเล่นซิทคอมได้ รวมทั้งแอบอ้างว่ารู้จักกับ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส ไปหลอกลวงเงินผู้คน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่อาจทำให้วงการบันเทิงรวมถึงสื่อมวลชนได้รับความเสียหาย ตอนนี้สามารถรวบรวมผู้เสียหายได้ประมาณ 5 คน รวมความเสียหายได้ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท
“ในวันนี้นอกจากจะมาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ก็จะมาติดตามสถานะทางคดีของ น.ส.พัช ที่เคยแจ้งดกเนินคดีไว้ก่อนหน้านี้ด้วยว่า ยังอยู่ในระหว่างการประกันตัวหรือติดกำไร EM หรือไม่ เพื่อให้ตำรวจนำไปดำเนินคดี พร้อมทั้งฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า หากถูกใครชักชวนให้เข้ามาร่วมงานวงการบันเทิง ควรติดต่อไปยังต้นสังกัดโดยตรงว่า มีบุคคลชื่อนี้อยู่ในสังกัดนั้นหรือไม่
โดยผู้เสียหายชายรายแรก เล่าว่า เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. น.ส.พัชได้แอด Line มาทักทายตน บอกว่าเห็นผลงานการแสดงตามละครซิทคอมต่าง ๆ ของตน จึงต้องการจะติดต่อไปร่วมแสดงซีรีย์ของทาง GMM Grammy อีกทั้งยังอ้างว่า ตนเองนั้นเป็นนักจิตวิทยา สนิทสนมกับคนในวงการบันเทิงเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ หนุ่ม กรรชัย ซึ่งลักษณะการพูดคุยของ น.ส.พัช นั้นค่อนข้างจะมีจิตวิทยาและหลอกล่อให้เชื่อถือได้ง่าย
แต่เมื่อตนเกิดสนใจ น.ส.พัช กลับให้ตนโอนเงินมาให้ อ้างว่าเป็นเงินประกันสำหรับการร่วมงาน ซึ่งบัญชีที่รับโอนไปนั้นไม่ได้เข้าบัญชีของ น.ส.พัช โดยตรง จึงหลงเชื่อ โอนไปจำนวน 140,000 บาท แต่หลังจากนั้น น.ส.พัช กลับเงียบหายไป จนมาค้นหาข่าวภายหลังก็ทราบว่า มีผู้ถูกหลอกลักษณะเดียวกับตนเป็นจำนวนมาก
ผู้เสียหายรายนี้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า หลังถูก น.ส.พัช หลอกเงินไปแล้ว ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร จึงไปค้นหาเว็บรับแจ้งความออนไลน์ของหน่วยงานต่างๆ ก่อนไปถูกมิจฉาชีพที่ปลอมเพจตำรวจขึ้นมา หลอกเงินไปอีกนับแสนบาท รวมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตนทั้งหมด รวมกว่า 240,000 บาท
ขณะที่ ผู้เสียหายหญิงรายที่ 2 กล่าวว่า รู้จัก น.ส.พัช ผ่านเพื่อนอีกทีนึง แอบอ้างว่าเป็นนักจิตวิทยาและขายอุปกรณ์การแพทย์ เคยทำงานให้กับมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อมแอบอ้างในลักษณะเดียวกันว่า รู้จักกับคนใน Gmm grammy และ หนุ่ม กรรชัย โดยเริ่มรู้จักตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค. เช่นเดียวกัน ตอนนั้นตนมีปัญหาเรื่องการเงิน น.ส.พัช จึงเสนอว่าจะให้กู้ยืมเงินให้ผ่านกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการขายอุปกรณ์ทางแพทย์ แต่มีข้อแม้ว่าต้องยอมโอนเงินให้ก่อนเพื่อการันตีว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะกู้ยืมเงินได้
รวมถึงพูดโน้มน้าว ในทำนองว่าจะเป็นคนรับประกันให้เอง ตนจึงโอนเงินไปให้ 16,900 บาท แต่สุดท้ายพอ น.ส.พัช ได้เงินไป กลับเงียบหาย จากนั้นตนจึงเข้าไปดูเพจตำรวจของหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเพจปลอม ก่อนจะถูกมิจฉาชีพหลอกเงินซ้ำไปอีก 17,000 บาท
ผู้เสียหายรายสุดท้าย กล่าวว่า ในเคสของตน ไม่ได้ถูกหลอกให้โอนเงิน แต่ถูก น.ส.พัช หลอกนำบัญชีธนาคารของตนไปใช้เป็นบัญชีม้า โดยเมื่อต้นเดือน ก.ค. น.ส.พัช ได้มาขอความช่วยเหลือผ่านเพื่อนอีกทีนึง อ้างเธอโดนแฟนโกงและทะเลาะกัน จึงขอมาอยู่ด้วย และเธอคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เธอจึงพา น.ส.พัชไปอยู่ด้วย ต่อมาเธออ้างว่ามีปัญหาเรื่องเงินในบัญชี จึงอยากจะรบกวนขอใช้บัญชีธนาคารของตนในการรับเงิน เธอก็ยินดีและหลังจากนั้นก็มีเงินโอนมาเรื่อย ๆ ครั้งละหลักหมื่นบาท รวมเบ็ดเสร็จจนถึงสิ้นเดือน ก.ค. มีเงินเข้ามาประมาณ 200,000 บาท เมื่อถาม น.ส.พัช ถึงยอดเงินดังกล่าว ก็อ้างว่าเป็นเงินที่ได้จากการประมูลขายอุปกรณ์การแพทย์ พร้อมระบุอีกว่าไม่เอาหน้าที่การงานของเขามาทำให้เสียชื่อเสียงแน่นอน จึงหลงเชื่อไม่ได้เอะใจอะไร ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าบัญชีม้าของตนถูกนำไปใบ้หลอกลวงเงินผู้คน จึงตัดสินใจไล่ น.ส.พัช ออกจากบ้านเมื่อช่วงสิ้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปสกคำผู้เสียหาย เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่พยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป