รวบสาวอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นครูวัยเกษียณ สูญเงินบำนาญนับล้าน ต้องซมซานกลับไทย เพราะทนทารุณไม่ไหว

วันที่ 11 ต.ค.พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.
รอง ผกก.5บก.ป. พ.ต.ท.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป.
เข้าจับกุม น.ส.พรรัตน์ฯ อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4103/2567 ลงวันที่ 28 ส.ค. 67 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ โดยการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ”ได้บริเวณหน้าหอพักภายในซอยลาดพร้าว 101 ซอย 38 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.

ทั้งนี้ทราบว่าเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะผู้เสียหายอยู่ที่บ้านพักของตนเอง มีคนร้ายโทรมาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของกองทุนบำเหน็จบำนาญ ลวงผู้เสียหายว่ามีสิทธิรับเงินเบี้ยหวัดตกค้างพร้อมแนะนำให้เพิ่มเพื่อนในบัญชีไลน์ เพื่อส่งข้อมูลลิงก์มาให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน ซึ่งหลังกดติดตั้งเพื่อพูดคุยกับคนร้ายแล้ว ก็พบว่าโทรศัพท์ขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้ ผู้เสียหายจึงวางพักเครื่องเอาไว้

ต่อมาหลังโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ผู้เสียหายรู้สึกผิดสังเกต จึงรับเข้าไปยังแอปฯธนาคารของตนเอง ก็รู้ว่ามีเงินในบัญชีถูกโอนออกไปยังบัญชีของคนร้าย 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านบาท จึงรีบเข้าแจ้งความที่ บก.สอท.2 จนกระทั่งตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด

สอบสวน น.ส.พรรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเคยขายบัญชีธนาคารให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่อมายังแอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ ด้านอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อไปทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามที่เพื่อนชักชวน เสนอเงินเดือนให้ถึง 4 หมื่นบาท พร้อมที่พักอย่างดี อาหารฟรีทุกมื้อ
น.ส.พรรัตน์ฯ ให้การต่อว่า เมื่อไปถึงกลับไม่ได้เป็นตามข้อตกลง เพราะทุกวันจะมีผู้มาคอยควบคุมทุกฝีก้าว ห้ามออกไปไหนโดยลำพัง ถูกกักขังอยู่ในห้องแคบๆ มีเพียงพัดลมเก่าๆ 1 ตัว ส่วนงานก็คือโทรศัพท์หลอกคนไทยตั้งแต่เช้าจนค่ำ อาหารก็เป็นข้าวบูด หากแอบหนีเที่ยวถ้าโดนจับได้ก็จะถูกจับล่ามโซ่ ทุบตีอย่างทารุณ หนักสุดคือถูกช็อตด้วยไฟฟ้าจนสลบ จึงต้องพากันหนีกลับประเทศไทย และทำให้ถูกจับกุมดังกล่าว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.2 ดำเนินคดีต่อไป

 

Subscribe
Advertisement