ผู้ประกอบการรถตู้-มินิบัส ทนแบกรับปัญหาวิกฤติโควิดไม่ไหว จับมือ 3 สมาคมร้อง “ศักดิ์สยาม” จี้เยียวยาด่วน

            เมื่อวันที่ 22 ก.ย.64 ที่ บริเวณด้านหน้ากระทรวงคมนาคม ถนนราชดำเนินนอก นายปรีดา มากมูลผล นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด พร้อมสมาชิกสมาพันธ์รถตู้แห่งประเทศไทย และสมาคมรถสาธารณะกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการเดินรถตู้โดยสารสาธารณะและผู้ขับขี่ จำนวนกว่า 100 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 โดยมี นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม และ นายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นผู้รับหนังสือแทน

นายปรีดา กล่าวว่า ในวันนี้ทั้ง 3 สมาคมมายื่นข้อเสนอ 3 ข้อหลักให้แก้ไขเร่งด่วน ได้แก่ 1.ติดตามความคืบหน้าเงินค่าเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรกเมื่อปี 63 ที่ขอเยียวยาให้ผู้ประกอบการรถสาธารณะคันละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน รวมทั้งหมด 15,000 บาทต่อคัน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการดูแล ซึ่งในส่วนนี้ทางกระทรวงคมนาคมจะเร่งติดตามให้ 2.ขอขยายอายุรถ 10 ปี ที่หมดภาษีในรอบปี 64 สามารถต่อภาษีรอบปี 65 อีก 1 ปี เนื่องจากโควิด-19 ทำให้ผู้โดยสารไม่มีเงินทุนมากพอเนื่องจากรายได้ลดต่อเนื่อง บางคันไม่ได้ประกอบการต้องหยุดวิ่ง เพราะแบกรับภาระไม่ไหว เช่น รถตู้โดยสารหมวด 2 เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กม. เป็นรถร่วมบริการบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) ที่มีประมาณ 3,000 กว่าคัน ตามประกาศรัฐบาลที่คุมเข้มรถโดยสารสาธารณะห้ามเข้า-ออก ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม 29 จังหวัด ทำให้ต้องหยุดวิ่งเป็นเวลา 2 เดือน คือ ก.ค.-ส.ค.64

และ 3.ขอให้เยียวยาเรื่องพักหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ย ของสถาบันการเงินและไฟแนนซ์ ทั้งที่ได้เข้าร่วมโครงการรัฐบาล และไม่เข้าร่วมโครงการรัฐบาลก็ตาม ขอให้พักหนี้ให้กับผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะ และรถมินิบัส ทุกรายจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเป็นปกติ ซึ่งกระทรวงคมนาคมขอไปหารือกับกระทรวงการคลังต่อไป

ขณะที่ นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะกรุงเทพฯ ปริมณฑล กล่าวว่า ขอให้ช่วยเหลือ 3 ข้อ ได้แก่ 1.ด้านรายได้ เช่น ปรับอัตราค่าโดยสารให้เหมาะสมกับราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แก้ระเบียบการรับโฆษณาบนตัวรถตู้เพื่อเพิ่มรายได้ 2.ด้านค่าใช้จ่าย ให้เงินทุนกับผู้ประกอบการเพื่อนำไปปรับปรุงการให้บริการให้ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการายย่อย 2 ปี เช่น ค่าสัมปทาน ค่าตอบแทบ ขสมก. ค่า GPS และผ่อนผันการชำระค่างวด และ 3.ด้านระเบียบข้อบังคับตามกฎหมาย การดำเนินการต้องให้มีตัวแทนสมาคมรถตู้เข้าไปร่วมพิจารณาทุกขั้นตอน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้อีก 20-30 วัน หากดำเนินการดังกล่าวไม่มีคืบหน้าหรือไม่มีการแก้ไข สมาคมฯ ทั้ง 3 หน่วยงาน จะรวมตัวกันมาทวงถามผลการดำเนินการต่อไป พร้อมกับแสดงเชิงสัญลักษณ์ให้ภาครัฐเห็นถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ และ รถตู้ รถมินิบัส หมวด 2 รถตู้หมวด 1 และ หมวด 4 ที่ให้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เป็นร่วมบริการกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ รถตู้เช่าเหมาจะหยุดวิ่งให้บริการต่อไป