ผู้ประกอบการที่พักบูติกภูเก็ต เตรียมยื่นหนังถือถึงผู้ว่าฯ ขออุทธรณ์เปิดให้บริการต่อไปอีก 2 ปี ตามที่กฎกระทรวงปี 2564 ขยายเวลาให้ที่พักบูติกปรับปรุงอาคารได้จนถึง 18 ส.ค.67 เพื่อให้ไปต่อได้ เผยกว่า 80% ยังไม่กล้าเปิดให้บริการ เกรงผิดกฎหมายโรงแรม
นายชินวัฒน์ อุดมนิยม นายกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ต เปิดเผยถึงภาพรวมการเปิดให้บริการของที่พักบูติกในภูเก็ต ที่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ในขณะนี้ เนื่องจากติดปัญหา พ.ร.บ.โรงแรม ว่า สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาที่พักบูติกในภูเก็ตนั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการที่พักบูติกในพื้นที่ป่าตอง เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ที่พักบูติกสามารถเปิดให้บริการได้
จากการหารือร่วมกันในครั้งนี้ ได้ข้อสรุปว่า ให้ผู้ประกอบการแต่ละรายยื่นหนังสือขออุทธรณ์ต่อนายทะเบียนโรงแรม เพื่อทุเลาความเดือดร้อนกรณีที่ที่พักบูติกถูกบังคับคดีจาก พ.ร.บ.โรงแรม โดยอิงตามกฎกระทรวง ปี 2564 ที่ขยายเวลาให้ที่พักบูติกปรับปรุงอาคารได้ถึงวันที่ 18 ส.ค.2567 ซึ่งหากนับจากวันนี้ไปจะเหลือเวลาอีก 2 ปี ที่จะขอทุเลาโดยการเปิดกิจการและขอคุ้มครองไปอีก 2 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการเปิดบริการและมีรายได้ในการปรับปรุงอาคารให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และในขณะเดียวกัน ทางสมาคมที่พักบูติกภูเก็ตได้พยายามผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับที่พักบูติกที่กำลังทยอยออกมา ซึ่งคาดว่าในช่วง 2 ปีนับจากนี้ผู้ประกอบการที่พักบูติกน่าที่จะได้ไปต่อได้
“การยื่นหนังสือถึงนายทะเบียนโรงแรม ซึ่งคือผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นั้น เป็นการยื่นอุทธรณ์เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ไปต่อได้ โดยมีผู้ประกอบการได้ลงทะเบียนเพื่อยื่นอุทธรณ์เข้ามาเรื่อยๆ” นายกสมาคมที่พักบูติก กล่าวและว่า
สำหรับที่พักบูติกในภูเก็ตนั้น ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้มีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตองไม่ต่ำกว่า 70-80% และที่เปิดให้บริการแล้วไม่ยังไม่กล้าที่จะเปิดขายผ่านออนไลน์ เพราะยังกลัวความผิด เนื่องจากยังอยู่ในการบังคับของกฎหมายโรงแรม ซึ่งมีทั้งกฎหมายของฝ่ายปกครองและกฎหมายอาญา เป็นต้น
นายชินวัฒน์ กล่าวต่อว่า ที่พักบูติกในภูเก็ตที่อยู่นอกระบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายมีประมาณ 2,000 กว่าราย แต่ที่ทางจังหวัดมีรายชื่ออยู่เพียง 994 รายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการกำลังรอกฎหมายโรงแรมที่เหมาะสมกับที่พักบูติกและโรงแรมขนาดเล็ก เพราะกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนี้เป็นกฎหมายที่ใช้บังคับโรงแรมใหญ่ แม้ว่าจะมีการลดเงื่อนไขลงมาแล้วในบางส่วน แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับอาคารที่เป็นโรงแรมขนาดเล็กและที่พักบูติกในหลายๆ ข้อ เพราะโรงแรมขนาดเล็กและที่พักบูติกจำนวนมากที่เปิดให้บริการมาก่อนที่จะมี พ.ร.บ.โรงแรม เมื่อปี 2547 ที่บังคับใช้กับที่พักที่เปิดให้บริการรายวันทุกประเภท แต่ต้องยอมรับว่ามีที่พักบูติกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เกิดขึ้นหลังมี พ.ร.บ.โรงแรม
โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตอง ถนนสาย 3 ของป่าตองที่เกิดขึ้นหลังปี 2547 ซึ่งที่ผ่านมาทางภาครัฐเห็นว่าที่พักรายเล็กๆ ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ที่นำอาคารที่มีอยู่มาปรับปรุงเป็นที่พักเปิดให้บริการ เพื่อสร้างรายได้ เป็นการพัฒนาเมือง จึงไม่ได้เข้มงวดในเรื่องนี้มากนัก
