ผบช.ภ.8 แถลงข่าวคดีหนุ่มพม่าเจาะฝ้าเพดานร้านทองกวาดทองไปกว่า 300 บาท

ผบช.ภ.8 แถลงข่าวคดีหนุ่มพม่าเจาะฝ้าเพดานร้านทองกวาดทองไปกว่า 300 บาท สุดท้ายจนมุม สารภาพติดการพนันออนไลน์ผู้สื่อข่าวรายงาน สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8-หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต แถลงผลการจับกุมนายชาย ออง อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาก่อเหตุปืนหลังคาชั้น 2 แล้วเจาะฝ้าเพดานห้องน้ำชั้น 2 กระโดดลงมาจี้บังคับคนในร้านทองทวีชัย ถ.ระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ตให้ลงไปเปิดตู้เซฟเก็บทองรูปพรรณที่ชั้นล่าง แต่กลับไปเจอนายสมหวังนอนดูทีวีอยู่ จึงเกิดการต่อสู้ โดยคนร้ายได้ใช้ไม้กระหน่ำตีศีรษะคนในบ้านทั้ง 2 คนและบังคับให้เปิดตู้เซฟ จากนั้นได้กวาดทองรูปพรรณจำนวน 378 บาท มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทและเงินสดอีกจำนวนหนึ่งปีนออกจากร้านหลบหนีไปหลังร้านบริเวณที่รกร้างและขี่รถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนไปตาม ถ.กระบี่ผ่านสี่แยก ถ.ปฏิพัทธ์ตัด ถ.กระบี่มุ่งหน้าผ่านแยกซิมจั่น(โรงไม้ตะกั่วป่า)ไปตาม ถ.วิชิตสงครามแล้วเลี้ยวหายไปที่บ้านหลังหนึ่ง ด้านหน้าเป็นคาร์แคร์ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 23 ต.ค.64 จากนั้นได้มีการสนธิกำลังหลายหน่วยงานออกติดตามคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วน จนรุ่งเช้าวันที่ 26 ต.ค.นำตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งมาสอบปากคำที่ บก.สส.ภ.8 พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเสนอต่อศาล จ.ภูเก็ตอนุมัติออกหมายจับนายชาย ออง อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา เมื่อวันที่ 27 ต.ค.64 ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้หรือจำหน้าได้ในเคหสถาน จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส โดยนายชายได้พักอาศัยอยู่ภายในบริเวณบ้านเลขที่ 64/1 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซักถามนายชายมีท่าทางพิรุธ จึงตรวจสอบภายในบ้านพักคนงาน พบเสื้อผ้าซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ แขวนอยู่หน้าห้องพักคนงานของนายชาย จึงให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้ โดยนำทรัพย์สินได้มาซุกซ่อนอยู่ในห้องพัก ตรวจสอบพบทองรูปพรรณน้ำหนัก 363 บาท และเงินสด 33,600 บาทที่นายชายชิงมาจากร้านทองทวีชัยเบื้องต้นในชั้นจับกุมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มาดูต้นทางที่ห้างทองทวีชัย 2 ครั้ง ช่วงวันที่ 20 และ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาว่าเหมาะสมแก่การก่อเหตุหรือไม่ โดยนายชายติดการพนันออนไลน์ ไม่มีเงิน โดยวันที่ 23 ต.ค.เวลา 17.00 น.ได้มาดูลาดเลาอีกครั้ง และเวลาประมาณ 18.00 น.จึงตัดสินใจก่อเหตุ โดยขี่รถ จยย.มาจอดที่ริมถนนเยาวราช และได้เข้าไปในตรอก ทางเข้าบ้านร้างบริเวณหลังร้านทองที่เกิดเหตุ โดยเข้าไปเปลี่ยนชุดที่เตรียมมาไว้สำหรับก่อเหตุ จากนั้นเดินลัดป่าหญ้าหน้าบ้านร้าง ปีนเสาหลังคาร้านทองที่เกิดเหตุ และรื้อกระเบื้องหลังคาออก เจาะฝ้าเพดานห้องน้ำชั้น 2 และลงมาแล้วเปิดประตูห้องน้ำเพื่อเข้าไปภายในบ้าน แต่เข้าไม่ได้ จึงปีนกลับไปบนหลังคา เพื่อเปิดกระเบื้องที่ห้องนอน เจาะฝ้าเพดานลงมาซุกซ่อนตัวในห้องนอนชั้น 2 และหยิบมีดจากในครัวร้านทองพร้อมกับหยิบท่อนไม้ยาวประมาณ 1 เมตร ซึ่งติดอยู่ในห้องครัว จากนั้นได้พบนางพวงเพ็ญ ศักดิ์เกษมกฤต อายุ 65 ปีและนายหวังดี อินทวงศ์ อายุ 71 ปีกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ชั้นล่าง จึงใช้ไม้ตีที่ศรีษะนายหวังดีและบังคับให้นางพวงเพ็ญเปิดประตูตู้เซฟนิรภัย ด้วยความหวาดกลัว น.ส.พวงเพ็ญจึงเปิดตู้เซฟให้ ระหว่างที่นายชายกำลังหยิบทองรูปพรรณ ไม่ทันระวังตัว นางพวงเพ็ญจึงหยิบเก้าอี้ฟาดเข้าที่บริเวณลำตัวของนายชาย ทำให้นายชายเกิดโมโหใช้ไม้ตีเข้าที่ศรีษะของนางพวงเพ็ญจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นนายชายจึงขนเอาทองรูปพรรณใส่ถุงพลาสติกและกระเป๋าสีดำแล้วออกมาเปลี่ยนชุดที่บริเวณตรอกหลังบ้าน สวมใส่หมวกกันน๊อคแล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทาง เพื่อกลับบ้านพักริม ถ.วิชิตสงครามจนถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยชุดจับกุมตรวจยึดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาเข้ม 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ 1 ตัว หมวกไหมพรมสีน้ำตาล 1 ใบ หมวกแก๊ปสีดำ 1 ใบ หมวกกันน๊อคสีดำ 1 ใบ ถุงมือขับรถ จยย.สีดำ 1 คู่ กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สี ดำ ทะเบียน 1 กด 6972 ภูเก็ต ทองคำรูปพรรณจำนวน 745 รายการ น้ำหนักทองรวมประมาณ 363 บาท มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เงินสด 33,600 บาท โดยนายชายเข้ามาอยู่ในประเทศไทย 12 ปีกว่า ซึ่งล่าสุดนายชายได้ไปต่ออายุใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย เมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 ครบกำหนดอนุญาตถึง 31 มี.ค.2565 และเคยเป็นช่างก่อสร้างมาก่อน จึงมีความรู้เรื่องการเจาะเพดานและซ่อมแซมบ้านเป็นอย่างดี โดยก่อนแถลงผลการจับกุมคดีดังกล่าว พล.ต.ท.อำพรได้สอบปากคำนายชาย ออง ผู้ต้องหาด้วยตนเองผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาขณะเดียวกันนางเบญจพร วัชรัตน์ศิริยุทธ์ เจ้าของร้านทองทวีชัยได้มอบกระเช้าดอกไม้แก่ พล.ต.ท.อำพร บัวรับพร ผบช.ภ.8 เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานที่สนธิกำลังกันหลังเกิดเหตุจนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็วภายใน 3 วันเท่านั้น และยังสามารถนำของกลางทองรูปพรรณและเงินสดบางส่วนกลับมาคืนแก่ทางร้านได้ในที่สุดหลังจากแถลงผลการจับกุมเสร็จสิ้น ทีมจับกุมได้พาตัวนายชาย ออง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสัญชาติเมียนมาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มจุดแรก นายชายเดินมาดูลาดเลาหน้าร้านทองทวีชัย จุดที่ 2 นายชายทุบผ้าเพดานชั้น 2 ของร้านทองทวีชัยให้เป็นช่องและสอดตัวลงไปในห้องน้ำ แต่ไม่สามารถเปิดประดูห้องน้ำได้ จึงปีนกลับขึ้นไป จุดที่ 3 บริเวณห้องนอนชั้น 2 ที่นายชายเปิดฝ้าเพดานปืนลงมา จุดที่ 4 นางพวงเพ็ญและนายหวังดีนั่งดูละครชั้นล่าง และเป็นจุดที่นายชายใช้ไม้ตีศีรษะบุคคลทั้ง 2 เป็นจุดที่นายชายใช้สายไฟมัดมือมัดเท้าบุคคลทั้ง 2 จุดที่ 5 จุดที่นายชายให้นางพวงเพ็ญไขกุญแจเปิดตู้เซฟ จุดที่ 6 บริเวณหลังร้านทองที่นายชายปืนขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ของร้าน และเป็นจุดที่นายชายปีนลงมาจากชั้น 2 หลังจากก่อเหตุแล้ว และเป็นจุดที่นายชายเปลี่ยนเครื่องแต่งกายหลังเกิดเหตุ และเส้นทางหลบหนีจากร้านทองไปทะลุถนนเยาวราช จุดที่ 7 นายชายนำรถจักรยานนต์มาจอด และเป็นจุดที่นายชายใช้เป็นเส้นทางเข้าออกร้านทอง และเป็นจุดที่นายชายนำถุงพลาสติกใส่ทองรูปพรรณมาวางไว้ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทั้งนี้ ผบช.ภ.8 ได้ฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงหน่วยงานเอกชน อาทิ เช่น ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อหมั่นตรวจสอบ และติดตั้งกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าร้าน ถนน ภายในบ้าน เพื่อป้องกันอาชญากรรม และสามารถช่วยลดโอกาสในการก่อเหตุของคนร้ายและผู้ไม่หวังดีได้ และฝากแจ้งประชาชนทุกคนสามารถแจ้งเบาะแสของกลุ่มคนผู้ไม่หวังดี หรือกลุ่มแก๊งที่เกรงว่าจะก่ออาชญากรรม ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรม รวมถึงให้หน่วยงานเอกชน ธนาคาร ร้านทอง หมั่นตรวจสอบสภาพบ้านเรือน ร้านค้า ของตนเองให้มีสภาพที่สมบูรณ์ มั่นคงแข็งแรง มีระบบการป้องกันที่ดี และทันสมัย มีการตรวจสอบสภาพมุมกล้อง ของกล้องวงจรปิดให้อยู่ในสภาพที่ดี และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

Subscribe
Advertisement
Adam Judd
Mr. Adam Judd is the Chief of Content of TPN media, English language, since December 2017. He is originally from Washington D.C., America. His background is in HR and Operations and has written about news and Thailand for a decade now. He has lived in Pattaya for about ten years as a full-time resident, is well known locally and been visiting the country as a regular visitor for over 15 years. His full contact information, including office contact information, can be found on our Contact Us page below.Stories please e-mail Editor@ThePattayanews.com About Us: https://thephuketexpress.com/about-us/ Contact Us: https://thephuketexpress.com/contact-us/