หลังจากคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ (คกก.) มีมติเห็นชอบให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางศาสนาสำคัญ 5 วัน ได้แก่ วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬหบูชา, วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ในโรงแรม-สถานบริการ-สนามบินระหว่างประเทศ-สถานที่จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติ แต่ยังห้ามขายในสถานที่อื่นทั่วไป มั่นใจมาตรการออกทันก่อนวันวิสาขาบูชา 11 พ.ค.นี้นั้น
ทางด้านนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับมติเห็นชอบให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันพระใหญ่ ว่า ที่ผ่านมาพบว่าในช่วงวันพระใหญ่ สถานบันเทิงจะปิดให้บริการและงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่เที่ยงคืนก่อนวันพระใหญ่จนถึงเที่ยงคืนวันพระใหญ่ ซึ่งในส่วนที่รัฐบาลได้มีแนวคิดในการที่จะให้ขายเครื่องดื่มแอลกอออล์ได้ในบางพื้นที่ตามประกาศของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เช่นในเมืองพัทยา หากจะจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในวันพระใหญ่จะต้องเป็นสถานบริการที่ได้รับใบอนุญาตและตั้งอยู่ในโซนนิ่ง ก็เห็นด้วย แต่หากออกนอกโซนนิ่ง ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง เพื่อร่วมกันดูแลในมติต่าง ๆ ของสังคม
อย่างไรก็ตามหากมติดังกล่าวมีการนำมาใช้ ก็อยากให้ผู้ประกอบการเคารพกฏหมายอย่างเคร่งครัด ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลฮอล์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และเชื่อว่าหากมีการประกาศใช้มติให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา 5 วันดังกล่าว ก็จะกระตุ้นการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาได้อีกทางหนึ่ง
ขณะที่นางอำพร แก้วแสง ผู้บริหารเดอะ สโตนส์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันสำคัญทางศาสนา 5 วัน ถือเป็นข่าวดีที่ผู้ประกอบการสถาบันเทิงรอคอยและเรียกร้องมานาน ต้องขอขอบคุณภาครัฐที่เข้าใจในมุมของผู้ประกอบการสถานบันเทิง และยังเป็นการสร้างความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองพัทยา และประเทศไทย ซึ่งหากมติดังกล่าวมีการประกาศใช้ผู้ประกอบการก็พร้อมปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัดในทุกด้าน และเชื่อว่ามติที่ออกมาจะส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังจะสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศมากขึ้นอีกด้วย
