ตำรวจ ปส. สกัดจับเครือข่ายยาเสพติดใหญ่ภาคอีสาน พบเคยถูกจับติดคุกแล้วยังไม่เข็ด 

        วันที่ 14 ต.ค.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. สั่งการ พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 นำกำลังจับกุมเครือข่ายใหญ่ จับกุมนายจงกล, นายบุญมี, น.ส.สุจิตรา และนางสำราญ พร้อมยาบ้า 6,440,000 เม็ด ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร ต่อเนื่องริมถนนสาย 22 ถนนนิตโย อ.พังโคน จ.สกลนคร และริมถนนสาย 22 ถนนนิตโย อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

         พล.ต.ท.สรายุทธ เปิดเผยว่า ตำรวจ บก.ปส.2 ได้ติดตามพฤติการณ์ของขบวนการค้ายาเสพติดที่มีนางสำราญ ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากจากเรือนจำ หลังพบว่ายังมีการสั่งการให้เครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่ให้ลูกค้า จากการสืบสวนพบเบาะแสว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะใช้รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร รถเก๋ง ฮอนด้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร และรถยนต์ฟอร์ด ทะเบียนสกลนคร ขับไปจอดอยู่ในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร

          ผบช.ปส.กล่าวต่อว่า หลังพบรถเป้าหมายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ ปส.2 ได้แสดงตัวขอตรวจค้น รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ พบนายจงกล เป็นผู้ขับ ส่วนภายในรถพบยาบ้า 6,440,000 เม็ด โดยรับว่าจะขนยาเสพติดไปส่งลูกค้าในพื้นที่ตอนใน ส่วนรถอีก 2 คันได้ขับล่วงหน้าไปสำรวจเส้นทางแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาจับกุมและยึดยาเสพติดเป็นของกลาง พร้อมติดตามไปสกัดจับรถเก๋งฮอนด้า มีนายบุญมี เป็นผู้ขับ และ น.ส.สุจิตรา นั่งมาด้วย ได้บริเวณ อ.พังโคน จ.สกลนคร นอกจากนี้ยังตามไปจับรถยนต์ฟอร์ด มีนางสำราญ เป็นผู้ขับ ได้ที่บริเวณ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยรถทั้ง 2 คัน ทำหน้าที่เป็นรถสังเกตุการณ์และรถนำทาง

           เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดรับว่า การขนยาเสพติดครั้งนี้ต้องใช้รถยนต์ถึง 3 คัน เนื่องจากเคยถูกจับมาก่อน จึงเพิ่มความระมัดระวัง โดยใช้รถคันแรกเป็นรถนำทางด้านหน้า เพื่อตรวจดูด่านของตำรวจ และดูรถที่ติดตามขบวนยาเสพติด ส่วนรถคันที่ 2 เป็นรถบรรทุกยาเสพติด รถคันสุดท้ายทำหน้าที่ปิดท้ายขบวน คอยคุ้มกัน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง ปส.2 ดำเนินคดีพร้อมสอบสวนขยายผลหาผู้สั่งการและกลุ่มขบวนการยาเสพติดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดต่อไป